รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยยอดบัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านราย ในปี 2030

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยยอดบัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านราย ในปี 2030

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยยอดบัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านราย ในปี 2030

  • ภายในสิ้นปี 2030 เครือข่าย 5G จะครอบคลุมการใช้มือถือทั่วโลกถึง 80%
  • ในปี 2030 จำนวนบัญชีผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะพุ่งแตะ 630 ล้านราย คิดเป็น 49% ของผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาคนี้
  • อีริคสันจะสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้กับประเทศไทยโดยใช้ความเป็นผู้นำ 5G ระดับโลก

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) คาด สิ้นปี 2030 จำนวนบัญชีผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านราย ตามรายงาน Ericsson Mobility Report (ฉบับเดือนมิถุนายน 2025) และคาดว่าสิ้นปี 2025 บัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.9 พันล้านราย หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมด

ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีนี้ ถึงแม้อัตราการเติบโตจะลดลง แต่ปริมาณการใช้ดาต้ายังเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในรายงาน Ericsson Mobility Report ยังคาดการณ์ว่ายอดการใช้ดาต้าเน็ตมือถือจะเพิ่มมากกว่าสองเท่าตลอดช่วงของการคาดการณ์จนถึงสิ้นปี 2030

เมื่อสิ้นปี 2024 เครือข่าย 5G รองรับการใช้ดาต้าเน็ตมือถือทั่วโลกถึง 35% โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2030 ตัวเลขนี้จะขยับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 80%

เครือข่าย 5G Mid-Band ครอบคลุมเกิน 50% ของจำนวนประชากรในทวีปยุโรป เมื่อสิ้นปี 2024 อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าความครอบคลุมของเครือข่าย 5G Mid-Band ในภูมิภาคนี้จะอยู่ในระนาบเดียวกับค่าเฉลี่ยของโลก แต่ยังตามหลังประเทศผู้นำต่าง ๆ อาทิ อเมริกาเหนือที่นำ 5G Mid-Band มาใช้งานครอบคลุมเกินกว่า 90% ของประชากร และอินเดียที่ใช้ 5G Mid-Band ครอบคลุมถึง 95% ของประชากร

ในปี 2030 คาดว่าจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะเพิ่มเป็น 630 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 49% ของจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ขณะที่ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนคาดว่าจะเติบโตจาก 19 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2024 เพิ่มเป็น 38 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2030

สำหรับประเทศไทย เครือข่าย 5G เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการบริโภคข้อมูลและการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU)

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เราอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เครือข่าย 5G และระบบนิเวศมีความพร้อมที่จะปลดปล่อย A Wave of Innovation หรือคลื่นแห่งนวัตกรรม ด้วยความก้าวหน้าของเครือข่าย 5G Standalone (SA) ประกอบกับพัฒนาการในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ได้นำไปสู่ระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับการปลดล็อกโอกาสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในการเชื่อมต่อไอเดียสร้างสรรค์ และเพื่อให้ 5G ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการคือการนำเครือข่าย 5G SA มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างฐานย่านความถี่ Mid-Band เพิ่มเติม”

อีริคสัน ประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย โดยอาศัยความเป็นผู้นำระดับโลกของเราในด้านเทคโนโลยี 5G ที่วันนี้เปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้ว 187 เครือข่ายทั่วโลก “วิสัยทัศน์หลักของเรา คือ การสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อถือได้ และยั่งยืน เพื่อเร่งการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล…เราเชื่อว่าการร่วมมือที่เข้มแข็งในระบบนิเวศเป็นสิ่งสำคัญช่วยปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้เต็มที่ ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และชุมชนต่าง ๆ เราตั้งเป้าส่งเสริมนวัตกรรม สร้างความเท่าเทียม และการเติบโตระยะยาวให้กับประเทศไทย” มร.แอนเดอร์ส กล่าว

มียูสเคสการใช้งาน 5G ปัจจุบันและในอนาคตมากมายที่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ความเป็นไปได้ของ 5G ไม่เพียงช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของโลกยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยควบคู่ไปด้วยกัน

ความก้าวหน้าของเครือข่าย 5G Standalone (SA) ประกอบกับพัฒนาการในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G นำไปสู่ระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับปลดล็อกโอกาสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เพื่อเชื่อมต่อไอเดียสร้างสรรค์ “เพื่อให้ 5G ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการคือการนำเครือข่าย 5G SA มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างฐานย่านความถี่ Mid-Band เพิ่มเติม” มร.แอนเดอร์ส กล่าว

การใช้ 5G SA ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับการนำไปปรับใช้และขับเคลื่อนยูสเคสการใช้งานใหม่ ๆ ให้กับทั้งองค์กรและผู้บริโภค

เนื่องจากอุปกรณ์ generative AI (GenAI) เป็นที่แพร่หลายและแอปฯ AI มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันและผู้ให้บริการด้านการสื่อสารจึงต้องให้ความสำคัญกับความสามารถในการอัปลิงก์ (Uplink) และระยะเวลาแฝงในการรับ-ส่งข้อมูล (Latency) มากขึ้น ตามรายงาน Ericsson Mobility Report ระบุถึงอุปกรณ์ 5G ที่เป็นนวัตกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจาก GenAI ที่ฝังอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ อย่าง แว่นตาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และใช้ประสิทธิภาพจากการโต้ตอบด้วยเสียง รวมถึงการนำประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน (Differentiated Connectivity) มาใช้มากขึ้นในแอปพลิเคชันใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภคและสำหรับองค์กร โดย Differentiated Connectivity จะเป็นกุญแจสำคัญมอบประสบการณ์คุณภาพสูงให้กับผู้ใช้ สำหรับ AI Agent ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคลและแอปพลิเคชันการสนทนาอื่น ๆ

“หัวใจหลักของการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายของเรา คือ ความตั้งใจแน่วแน่และมีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ และโปร่งใส เรามุ่งมั่นสร้างมาตรฐานความเป็นเลิศและสรรหาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมอบให้กับอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าบทบาทและการมีส่วนร่วมของเราสามารถสร้างผลกระทบและมีความรับผิดชอบไปพร้อมกัน ด้วยการผนึกกำลังร่วมกัน เรากำลังสร้างอนาคตที่เชื่อมต่อถึงกันให้กับประเทศไทย ซึ่งมีทั้งความครอบคลุม ยืดหยุ่น และพร้อมเปิดรับทุกโอกาสในอนาคต” มร.แอนเดอร์ส กล่าวสรุป

อ่านรายงาน Ericsson Mobility ฉบับเต็ม มิถุนายน 2025 ได้ที่ลิงก์นี้

Ericsson secures multi-year Managed Services deal with Bharti Airtel

อีริคสันคว้าสัญญาร่วมบริหารเครือข่ายระยะยาวกับ Bharti Airtel ของอินเดีย

Ericsson secures multi-year Managed Services deal with Bharti Airtel

Ericsson (NASDAQ: ERIC) has been awarded a multi-year NOC Managed Services (MS) contract by Bharti Airtel, further strengthening the long-standing partnership between the two companies. This strategic agreement underscores Ericsson’s leadership in managed services and reaffirms its commitment to delivering exceptional value to Airtel customers.

Under this agreement, Ericsson will enable intent-based operations, powered by its centralized Network Operations Center (NOC), to manage Airtel services across 4G, 5G NSA, 5G SA, Fixed Wireless Access (FWA), Private Networks, and Network Slicing.

This partnership will see Ericsson manage Airtel’s pan-India network through its state-of-the-art NOC while scaling FWA and Network Slicing across the country.

“We are excited to enhance our strong collaboration with Ericsson as we pursue our goal of creating a future-ready network that delivers an exceptional experience for our customers. We believe that these innovative technologies will empower us to meet the growing data demands of consumers in a digitally connected India.” says Randeep Sekhon, CTO Bharti Airtel

Andres Vicente, Head of Market Area Southeast Asia, Oceania and India, Ericsson, says: “This milestone agreement with Bharti Airtel reinforces our commitment to helping Airtel deliver the best possible experience for its customers. By leveraging Intent-Based NOC Operations, we will enable Airtel to unlock wider service diversification to meet customer needs, thereby enabling new revenue opportunities for Airtel.”

Ericsson’s longstanding partnership with Bharti Airtel, spanning over 25 years, encompasses multiple generations of mobile communications technology. Notably, this announcement follows closely on the heels of Bharti Airtel’s collaboration with Ericsson on 5G Core to drive 5G evolution.

อีริคสันคว้าสัญญาร่วมบริหารเครือข่ายระยะยาวกับ Bharti Airtel ของอินเดีย

อีริคสันคว้าสัญญาร่วมบริหารเครือข่ายระยะยาวกับ Bharti Airtel ของอินเดีย

อีริคสันคว้าสัญญาร่วมบริหารเครือข่ายระยะยาวกับ Bharti Airtel ของอินเดีย

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) คว้าสัญญาระยะยาวการให้บริการด้านการจัดการในศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย หรือ NOC Managed Services (MS) จาก Bharti Airtel บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ในอินเดีย ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือที่มียาวนานระหว่างทั้งสองบริษัทให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยข้อตกลงเชิงกลยุทธ์นี้ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในบริการด้านการจัดการหรือ Managed Services และสอดรับกับความมุ่งมั่นเพื่อนำเสนอบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้บริการของ Bharti Airtel

ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ อีริคสันจะเปิดใช้ Intent-Based Operations ที่ขับเคลื่อนผ่านศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย หรือ Network Operations Center (NOC) เพื่อจัดการเครือข่ายที่ให้บริการของ Airtel ตั้งแต่ 4G, 5G NSA, 5G SA, Fixed Wireless Access (FWA), Private Networks และ Network Slicing

และในความร่วมมือนี้ อีริคสันจะเป็นผู้ดูแลและจัดการเครือข่ายทั่วประเทศอินเดียของ Airtel ผ่านศูนย์ NOC ที่ทันสมัย พร้อมขยายขนาดบริการ FWA และ Network Slicing ไปทั่วประเทศ

มร.รันดีป เซฆอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Bharti Airtel กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่ได้เสริมสร้างความร่วมมือกับอีริคสัน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายของเราในการสร้างเครือข่ายที่พร้อมสำหรับอนาคต และมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า เราเชื่อว่าเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการตอบสนองความต้องการการใช้ดาต้าที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในอินเดียที่เชื่อมต่อผ่านระบบดิจิทัล”

มร. แอนเดรส วิเซนเต้ หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนียและอินเดียของอีริคสัน กล่าวว่า “ข้อตกลงสำคัญกับ Bharti Airtel ในครั้งนี้ เสริมสร้างความมุ่งมั่นของเราในการช่วยให้ Airtel มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้บริการ ด้วยการใช้ประสิทธิภาพจาก Intent-Based NOC Operations จะทำให้ Airtel ปลดล็อกบริการที่มีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และยังเปิดโอกาสการสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับ Airtel”

ความร่วมมือระหว่าง อีริคสัน กับ Bharti Airtel ที่ยาวนานกว่า 25 ปี ครอบคลุมเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่หลายยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นจากการประกาศความร่วมมือระหว่าง Bharti Airtel และ อีริคสัน ในการพัฒนาเครือข่ายหลัก 5G เพื่อขับเคลื่อน 5G Evolution

CelcomDigi to enhance customer experience through AI-driven autonomous network in collaboration with Ericsson

CelcomDigi to enhance customer experience through AI-driven autonomous network in collaboration with Ericsson

CelcomDigi to enhance customer experience through AI-driven autonomous network in collaboration with Ericsson

CelcomDigi Berhad (“CelcomDigi”) and Ericsson (Malaysia) Sdn Bhd (“Ericsson”) signed a Memorandum of Understanding (MoU) to collaborate on advancing autonomous network operations in Malaysia. This initiative aims to utilise AI-driven network analytics to optimise CelcomDigi’s network operations, enabling it to continue delivering superior network experience for its customers.

With imminent mass 5G adoption, network complexity continues to grow due to an increasing number of connected devices and diverse use cases. To address this, CelcomDigi and Ericsson will jointly explore the development of advanced, intent-driven autonomous networks, leveraging AI and automation to deliver differentiated, high-quality connectivity services.

Key components of the collaboration include:

  • AI-driven automation – Utilising AI technologies to enhance network efficiency and optimise performance.
  • 5G service assurance – Ensuring superior, differentiated 5G services for enterprises and consumers.
  • Enhanced customer experience – Improving service quality and operational efficiency through autonomous solutions.

As part of the collaboration, Ericsson will bring its global expertise and industry-leading AI Intent-Based Operations (IBO) to accelerate the pace of developing the autonomous network operations. The integration of AI-driven autonomous capabilities will also support CelcomDigi’s ongoing network integration and modernisation efforts, building the nation’s leading digital network that delivers best-in-class experiences to Malaysian enterprises and consumers.

Commenting on the partnership, CelcomDigi’s CEO Datuk Idham Nawawi said, “Malaysia’s 5G adoption is accelerating, and thus it is critical that we evolve our network capabilities to manage increasing complexity while delivering a superior customer experience. As an extension of our ongoing partnership with Ericsson, we are taking steps towards intent-based autonomous networks, harnessing AI and automation to transform how networks operate, optimise performance, and improve sustainability.”

David Hägerbro President and CEO of Ericsson Malaysia, Sri Lanka, and Bangladesh, said, “This collaboration with CelcomDigi is a strategic leap forward in the digital transformation of Malaysia. We are particularly excited about the potential to leverage AI technologies in autonomous network operations, which will further improve efficiency and customer experience. The MoU aims to drive operational efficiency enhancements, boost service quality, and elevate user experiences. Our commitment to Malaysia is unwavering, and through these collaborations, we aim to help CelcomDigi stay at the cutting-edge of digital innovation.”

This collaboration reinforces CelcomDigi’s commitment in leveraging partnerships to drive innovation and support the nation’s transformation into a 5G-AI powered digital economy. By pioneering autonomous network operations, CelcomDigi and Ericsson aim to set new benchmarks in network efficiency, service differentiation, and customer satisfaction.

CelcomDigi ร่วมมือกับอีริคสัน ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานมือถือผ่านเครือข่ายอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

CelcomDigi ร่วมมือกับอีริคสัน ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานมือถือผ่านเครือข่ายอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

CelcomDigi ร่วมมือกับอีริคสัน ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานมือถือผ่านเครือข่ายอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

CelcomDigi Berhad (“CelcomDigi”) และ อีริคสัน (มาเลเซีย) Sdn Bhd (“Ericsson”) ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อร่วมมือกันพัฒนาการดำเนินงานเครือข่ายอัตโนมัติในประเทศมาเลเซีย โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการวิเคราะห์เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านเครือข่ายของ CelcomDigi ช่วยให้บริษัทฯ สามารถมอบประสบการณ์เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงให้แก่ผู้ใช้งานมือถือได้อย่างต่อเนื่อง

การนำเครือข่าย 5G มาใช้อย่างแพร่หลาย ก่อให้เกิดความซับซ้อนของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและยูสเคสการใช้งานที่หลากหลายเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อแก้ไขความท้าทายเหล่านี้ CelcomDigi และอีริคสันจะร่วมกันสำรวจแนวทางการพัฒนาเครือข่ายอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนตามเจตนารมณ์หรือ Intent-Driven Autonomous Networks โดยใช้ประสิทธิภาพจาก AI และระบบอัตโนมัติสำหรับมอบบริการการเชื่อมต่อที่แตกต่างและมีคุณภาพสูง

ความร่วมมือดังกล่าวประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้:

  • ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI – ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • การรับประกันบริการ 5G – การรับประกันบริการ 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงและแตกต่าง สำหรับองค์กรและผู้บริโภค
  • มอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้ – ปรับปรุงคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านโซลูชันอัตโนมัติ

อีริคสันจะนำความเชี่ยวชาญระดับโลกและแนวคิด AI Intent-Based Operations (IBO) ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมาช่วยเร่งการพัฒนาการดำเนินงานเครือข่ายอัตโนมัติ โดยบูรณาการความสามารถอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่าง ๆ มาใช้สนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและการพัฒนาเครือข่ายของ CelcomDigi ให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับสร้างเครือข่ายดิจิทัลชั้นนำของประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับทั้งองค์กรและผู้บริโภคชาวมาเลเซีย

นาย Datuk Idham Nawawi ซีอีโอของ CelcomDigi ให้ความเห็นถึงความร่วมมือนี้ว่า “การใช้ 5G ในมาเลเซียกำลังเร่งขยายตัวมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องพัฒนาความสามารถเครือข่ายเพื่อจัดการและรับมือกับความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยังคงมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้งาน การขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับอีริคสัน ทำให้เรากำลังก้าวไปสู่การดำเนินงานเครือข่ายอัตโนมัติตามเจตนารมณ์ หรือ Intent-Based Autonomous Networks โดยใช้ AI และระบบอัตโนมัติมาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงด้านความยั่งยืน”

นาย David Hägerbro ประธานและซีอีโอของอีริคสัน มาเลเซีย ศรีลังกา และบังกลาเทศ กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ CelcomDigi ถือเป็นก้าวสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของมาเลเซีย พวกเราตื่นเต้นกับศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อดำเนินงานเครือข่ายอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้งานมือถือให้ดียิ่งขึ้น โดย MoU ฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน เพิ่มคุณภาพการให้บริการ และยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราต่อมาเลเซียที่ยังคงเหมือนเดิม และจากความร่วมมือนี้ เรายังมุ่งสนับสนุนให้ CelcomDigi เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านนวัตกรรมดิจิทัล”

ความร่วมมือนี้ยังต่อยอดความมุ่งมั่นของ CelcomDigi ในการใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับพันธมิตรสำหรับขับเคลื่อนนวัตกรรมและสนับสนุนการทรานฟอร์มเมชันของประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเครือข่าย 5G และเทคโนโลยี AI ด้วยการบุกเบิกการดำเนินงานเครือข่ายอัตโนมัติของ CelcomDigi และอีริคสันจะกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านประสิทธิภาพเครือข่าย การนำเสนอบริการที่แตกต่าง และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น