อีริคสันจับมือโวดาโฟนพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะระยะยาว 5 ปี

อีริคสันจับมือโวดาโฟนพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะระยะยาว 5 ปี

อีริคสันจับมือโวดาโฟนพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะระยะยาว 5 ปี

  • อีริคสันจะเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย RAN ของโวดาโฟนแต่เพียงผู้เดียวในไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส และยังเป็นผู้ให้บริการหลักในเยอรมนี โรมาเนีย และอียิปต์
  • ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นาน 5 ปี จะตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกของโวดาโฟนทั้งด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้ ผ่านการติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 5G ประสิทธิภาพสูงของอีริคสัน เพื่อพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและพร้อมเปิดใช้งาน 5G แบบ Standalone เพื่อรองรับความต้องการการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน
  • นำระบบบริหารจัดการเครือข่ายอัจฉริยะแบบเปิดและระบบอัตโนมัติ (หรือ SMO และ rApps) มาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ประหยัดพลังงานและมีความยั่งยืน

อีริคสัน (NASDAQ:ERIC) ประกาศร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับโวดาโฟน (Vodafone) หนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลกเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายของโวดาโฟนให้ทันสมัย โดยติดตั้งโซลูชันเครือข่ายประสิทธิภาพสูงแบบตั้งโปรแกรมได้ของอีริคสัน (หรือ High-Performing Programmable Network Solutions) กับหลายตลาดสำคัญ

อีริคสันจะเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย RAN (Radio Access Network) เพียงรายเดียวของโวดาโฟนในไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส รวมถึงยังคงเป็นผู้ให้บริการหลักในเยอรมนี โรมาเนีย และอียิปต์ การร่วมมือนี้ยังเพิ่มความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ระยะยาวแก่ทั้งสองบริษัทให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการเครือข่าย RAN ของโวดาโฟน ให้ทันสมัยนั้นเป็นการวางรากฐานเพื่อนำ 5G แบบ Standalone มาใช้วงกว้าง ซึ่งทำให้โวดาโฟนสามารถนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน (Differentiated Connectivity Solutions) พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการปรับแต่งเฉพาะให้กับทั้งลูกค้ากลุ่มองค์กรและกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป

ภายใต้ความร่วมมือนี้ โวดาโฟนจะนำอุปกรณ์วิทยุ Massive MIMO ที่ก้าวหน้าที่สุดและรองรับ Open RAN รวมถึงโซลูชัน RAN Compute และซอฟต์แวร์ 5G Advanced RAN ของอีริคสันมาติดตั้งในเครือข่ายโวดาโฟนในตลาดเหล่านี้

ข้อตกลงที่ครอบคลุมความร่วมมือทั่วทั้งยุโรปนี้ยังนำเสนอ Ericsson Intelligent Automation Platform และ rApps แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย RAN ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะได้รับการติดตั้งในแต่ละตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย RAN อัตโนมัติ ประหยัดพลังงาน และช่วยบริหารจัดการเครือข่ายของผู้ให้บริการหลากหลาย

เยอรมนีจะเป็นตลาดแรกที่ติดตั้ง Intelligent Automation Platform และ rApps ของอีริคสัน รวมถึงโซลูชันบริหารจัดการเครือข่ายผู้ให้บริการ RAN หลายราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4 ปีนี้ สำหรับความร่วมมือด้าน AI และการพัฒนาเครือข่ายให้ครอบคลุมยังช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของโวดาโฟนไปสู่มาตรฐานระดับโลก และขยับเป็นผู้นำบริการเครือข่ายอัตโนมัติเป็นรายแรก ๆ ตอกย้ำว่าเครือข่ายของพวกเขามีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตได้

Alberto Ripepi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือข่ายของ Vodafone Group กล่าวว่า “การร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอีริคสัน นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายของเรา โดยการปรับปรุงเครือข่ายด้วยอุปกรณ์รุ่นล่าสุดและใช้ประสิทธิภาพระดับสูงจากความสามารถ 5G Advanced จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าพร้อมเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้ระบบอัตโนมัติและ AI Agent มาตอบโจทย์ความต้องการเครือข่ายแบบเรียลไทม์ได้อย่างราบรื่น เรากำลังวางรากฐานเพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับ Network APIs ผ่านบริษัทร่วมทุนของเรา Aduna การผนึกกำลังร่วมกันนี้จะช่วยให้เราปลดล็อกศักยภาพเครือข่ายให้กับนักพัฒนา เร่งการพัฒนานวัตกรรมด้านแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ รวมถึงทำให้โวดาโฟนก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครือข่าย”

Patrick Johansson รองประธานอาวุโสและหัวหน้าตลาดในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาของอีริคสัน กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ขยายความร่วมมือระยะยาวกับโวดาโฟนผ่านข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะประสิทธิภาพสูง วางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับโวดาโฟนเพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน ด้วยการติดตั้งนวัตกรรมและโซลูชันที่มีประสิทธิภาพพื้นฐานให้กับทั้งลูกค้าในกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มองค์กร เรากำลังเปิดโอกาสใหม่สำหรับการสร้างรายได้จากบริการพร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมโทรคมนาคมไปสู่ยุคใหม่”

โวดาโฟนจะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของตนเพิ่มเติมด้วยการใช้โซลูชันซอฟต์แวร์ Ericsson 5G Advanced RAN ที่นำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติมาใช้สำหรับเปิดใช้งานเครือข่ายอัจฉริยะ รวมถึงการจัดการเครือข่ายแบบเรียลไทม์ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและการประหยัดพลังงาน มอบอุปกรณ์และเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า และสร้างโอกาสเพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ ๆ ผ่านบริการการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน

ด้วยการใช้สถาปัตยกรรมเครือข่ายที่ตั้งโปรแกรมได้ประสิทธิภาพสูง ความร่วมมือนี้จะเร่งการพัฒนานวัตกรรมรวมถึงการพัฒนายูสเคสการใช้งานใหม่ ๆ ในตลาดที่โวดาโฟนให้บริการ แนวทางการดำเนินงานเชิงรุกนี้จะสร้างความมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของโวดาโฟนมีความพร้อมสำหรับอนาคตและสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเกิดใหม่ ทำให้บริษัทอยู่ในสถานะผู้นำอย่างมั่นคงในภูมิทัศน์โทรคมนาคมระดับโลก

Ericsson named a Leader in the Gartner Magic Quadrant for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions 2025 report

Ericsson named a Leader in the Gartner Magic Quadrant for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions 2025 report

Ericsson named a Leader in the Gartner Magic Quadrant for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions 2025 report

  • Ericsson positioned as a Leader in a Gartner Magic Quadrant for 5G for the fifth year running
  • Placed highest in this Gartner Magic Quadrant for “Ability to Execute”
  • Ericsson continues to evolve its 5G RAN hardware and software products

Ericsson (NASDAQ: ERIC) has been recognized as a Leader in the 2025 Gartner® Magic Quadrant™ for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions, with the highest position on Ability to Execute axis.

The report, released on 10 September 2025, gives a market overview of the critical 5G radio access network (RAN) infrastructure capabilities, based on how Gartner experts comprehensively and independently assessed vendors who offer 5G solutions for communications service providers (CSPs) across two indices: Completeness of Vision and Ability to Execute.

Per Narvinger, Executive Vice President and Head of Networks at Ericsson, says: “Being recognized as a Gartner Magic Quadrant Leader for five consecutive years is, for us, a reflection of our ongoing efforts to support customers as their needs evolve. We believe this continued recognition isn’t just about pushing the boundaries of technology, it’s about helping service providers build the networks of the future. At Ericsson, we’re always working to bring new ideas to life and deliver on our promises, making sure our customers are ready for whatever comes next.”

Around half of the world’s mobile 5G traffic outside China is carried over Ericsson-powered networks. Ericsson can also modernize legacy 4G sites with 5G – achieving 10 times greater capacity and up to 30 percent energy savings. A recent GSA report shows there are around 300 5G networks in commercial service globally., Ericsson currently supports 187 live 5G networks in 78 countries, of which more than 40 are 5G Standalone 5G networks.

Ericsson’s commercial 5G leadership and focus on pioneering technology evolution is independently known across the industry. The company has been recognized as a leader in Frost & Sullivan’s Frost Radar: 5G Network Infrastructure, 2025 report for the fifth year in a row. Ericsson has also secured the highest ranking in the recently published Omdia Market Landscape RAN Vendors report for 2025. 

Ericsson continuously evolves its portfolios, which include 5G RAN with Ericsson Radio SystemCloud RAN, and 5G Transport as well as professional services. Its hardware range features energy-efficient, compact Massive MIMO and multiband radios powered by Ericsson’s latest generation custom silicon and prepared for Open RAN.

In February, the company expanded its offerings with radios, antennas, and open fronthaul solutions called RAN Connect – enabling CSPs to build high-performing programmable networks.

Ericsson’s RAN software advances through intent-based automation and AI-powered features. Its 5G Advanced suite includes Automated Energy Saver and AI-native Link Adaptation, which boost both efficiency and overall network performance.

Also worth noting is that Ericsson has *achieved its portfolio sustainability targets for 2025—six months ahead of schedule. To support customers in managing rising costs and reaching their Net Zero goals, Ericsson has reduced energy consumption at new radio base stations by 40 percent compared to 2021 levels and lowered supply chain emissions by decreasing product weight by 45 percent compared to 2020 benchmarks.

Download the full report 2025 Gartner® Magic Quadrant™ for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions

รายงาน Gartner Magic Quadrant ปีนี้ ยกอีริคสันให้เป็นผู้นำโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน 5G RAN สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร

รายงาน Gartner Magic Quadrant ปีนี้ ยกอีริคสันให้เป็นผู้นำโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน 5G RAN สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร

รายงาน Gartner® Magic Quadrant ปีนี้ ยกอีริคสันให้เป็นผู้นำโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน 5G RAN สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร

  • อีริคสันได้รับการยกย่องเป็นผู้นำในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ 5G  ติดต่อกันเป็นปีที่ 5
  • อีริคสันอยู่ในตำแหน่งสูงสุดในด้าน “Ability to Execute หรือความสามารถในการดำเนินการ”
  • อีริคสันไม่หยุดเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 5G RAN

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ได้รับการคัดเลือกจาก Gartner ให้เป็นผู้นำด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน 5G RAN สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ในรายงาน Gartner® Magic Quadrant™ ประจำปี 2568 โดยอยู่ในตำแหน่งสูงสุดในด้าน “ความสามารถในการดำเนินการ หรือ Ability to Execute”

รายงานนี้เผยแพร่เมื่อ 10 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยนำเสนอภาพรวมตลาดในด้านความสามารถสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายวิทยุ 5G (หรือ 5G RAN) โดยผู้เชี่ยวชาญของการ์ทเนอร์ได้ประเมินและวัดผลอย่างครอบคลุมและเป็นอิสระกับบริษัทต่าง ๆ ที่นำเสนอโซลูชัน 5G แก่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ครอบคลุมทั้งในภาพรวมของวิสัยทัศน์ (Completeness of Vision) และความสามารถในการดำเนินการ (Ability to Execute) ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G

มร.เปอร์ นาร์วินเจอร์ รองประธานบริหารและหัวหน้าเครือข่ายอีริคสัน กล่าวว่า “การได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำในรายงาน Gartner Magic Quadrant เป็นเวลาถึง 5 ปีติดต่อกันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง มันตอกย้ำถึงความพยายามของเราในการสนับสนุนลูกค้าที่ความต้องการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การได้รับยกย่องนี้ไม่ใช่เป็นแค่แรงผลักดันในการพัฒนาขีดจำกัดของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยผู้ให้บริการด้านการสื่อสารได้พัฒนาเครือข่ายแห่งอนาคต อีริคสันพร้อมมุ่งมั่นนำแนวคิดใหม่ ๆ ให้มาสู่การใช้งานได้จริงและสานต่อพันธสัญญาที่เราตั้งมั่น เพื่อมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

ประมาณครึ่งหนึ่งของการใช้งาน 5G บนมือถือทั่วโลก (ไม่รวมประเทศจีน) ดำเนินการผ่านเครือข่ายที่ขับเคลื่อนโดยอีริคสัน นอกจากนี้ อีริคสันยังได้ยกระดับปรับสถานีฐาน 4G รุ่นเก่าให้ทันสมัยขึ้นเป็น 5G ซึ่งสามารถเพิ่มความจุได้ถึง 10 เท่า และประหยัดพลังงานได้ถึง 30% รายงานล่าสุดจาก GSA แสดงให้เห็นว่ามีเครือข่าย 5G ที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ประมาณ 300 เครือข่ายทั่วโลก ขณะที่อีริคสันเปิดให้บริการ 5G แล้วถึง 187 เครือข่ายใน 78 ประเทศ และมากกว่า 40 เครือข่ายเป็นระบบ 5G Standalone

ความเป็นผู้นำ 5G เชิงพาณิชย์และการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีของอีริคสันเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม บริษัทฯ ยังได้รับการยอมรับเป็นผู้นำในรายงาน Frost & Sullivan’s Frost Radar: 5G Network Infrastructure ประจำปี 2568 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และได้รับการจัดอันดับสูงสุดในรายงาน Omdia Market Landscape RAN Vendors ของปี 2568 ที่เผยแพร่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

อีริคสันพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง 5G RAN พร้อมด้วย Ericsson Radio SystemCloud RAN และ 5G Transport ตลอดจนบริการอื่น ๆ ในระดับมืออาชีพ รวมถึงฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย Massive MIMO และ Multiband Radios ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและขนาดกะทัดรัด ขับเคลื่อนด้วยซิลิคอนรุ่นล่าสุดของอีริคสันและพร้อมรองรับระบบ Open RAN

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายผลิตภัณฑ์ด้วยวิทยุ เสาอากาศ และโซลูชัน Open Fronthaul ที่เรียกว่า RAN Connect เพื่อช่วยผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถสร้างเครือข่ายที่สามารถตั้งโปรแกรมได้และมีสมรรถนะสูง

ซอฟต์แวร์ RAN ของอีริคสันได้รับการพัฒนาผ่านระบบอัตโนมัติตามเจตนารมณ์ หรือ Intent-Based Automation และฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยในชุด 5G Advanced ประกอบด้วยเทคโนโลยี Automated Energy Saver และ AI-native Link Adaptation ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะการทำงานโดยรวมให้กับเครือข่าย

นอกจากนี้ อีริคสันยังได้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ในปี 2568 เร็วกว่าที่กำหนดไว้ถึง 6 เดือน* สำหรับสนับสนุนลูกค้าในการจัดการต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและบรรลุเป้าหมาย Net Zero ซึ่งบริษัทฯ ลดการใช้พลังงานของสถานีฐานเครือข่ายวิทยุใหม่ลง 40% เมื่อเทียบกับระดับของปี 2564 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทาน โดยลดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ลงถึง 45% เมื่อเทียบกับปี 2563

ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่: 2025 Gartner® Magic Quadrant™ for CSP 5G RAN Infrastructure Solutions

Ericsson and depa extend strategic partnership to accelerate 5G Industrial Innovation in Thailand

อีริคสันและดีป้าต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรม 5G สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย

Ericsson and depa extend strategic partnership to accelerate 5G Industrial Innovation in Thailand

  • This is a two-year extension to the private-public collaboration which commenced in 2022.
  • A cornerstone of the partnership is the 5G Innovation and Experience Studio in Thailand Digital Valley.
  • Ericsson will deliver advanced, secure and resilient 5G solutions to accelerate industrial digitalization in support of the Thailand 4.0 vision.

Ericsson (NASDAQ: ERIC) and the Digital Economy Promotion Agency (depa) have extended their strategic Memorandum of Understanding (MoU) to jointly advance the deployment and understanding of 5G technologies across Thailand’s industrial landscape.

The signing ceremony was attended by executives from both organizations, including Dr. Warin Ratchananusorn, Acting Senior Executive Vice President of depaDr. Supakorn Siddhichai, Group Executive Vice President of depa, and Mr. Anders Rian, President of Ericsson Thailand. The Ministry of Digital Economy and Society (MDES) was represented at the event by its Deputy Permanent Secretary, Dr. Nattapon NattasomboonMr. Per Linnér, the Swedish Embassy’s Chargé d’affaires also attended the event .

This two-year extension of the collaboration, which commenced in 2022, underscores a shared commitment to drive digital transformation and innovation in alignment with the country’s Thailand 4.0 vision.

A cornerstone of this partnership has been the establishment of the 5G Innovation and Experience Studio (5GIX Studio), located within Thailand Digital Valley in Chonburi province. Designed as a testbed and service hub, the studio facilitates trials of next-generation wireless and network technologies, spectrum sharing, and the development of cutting-edge applications tailored to Thailand’s evolving digital economy.

Since the establishment of the 5GIX Studio, a broad range of technology ecosystem partners have collaborated to develop and test innovative 5G applications, including robotics, automated machines, and advanced security camera solutions.

According to MDES, Thailand’s enterprise 5G market is projected to exceed USD 2.5 billion by 2027, driven by demand in manufacturing, logistics, energy, and smart city development, with over 70% of Thai enterprises expected to adopt digital technologies by 2026.

“Ericsson remains committed to supporting Thailand’s journey toward becoming a digital society under the Thailand 4.0 vision,” said Mr. Anders Rian, President of Ericsson Thailand. “Leveraging our global expertise and advanced, secure and resilient 5G solutions, we aim to help build a robust and inclusive 5G ecosystem that empowers industries across the nation and encourages further investment in Thailand.”

Asst.Prof.Dr. Nuttapon Nimmanphatcharin, President & CEO of depa, added, “Ericsson is a strategic partner in our mission to strengthen Thailand’s digital economy. Together, we will work with industry stakeholders to develop forward-looking strategies and foster innovations that enhance quality of life and national competitiveness.”

Mr. Per Linnér, the Swedish Embassy’s Chargé d’affaires spoke about the longstanding and growing trade and innovation ties between Sweden and Thailand, underscoring the importance of cross-border collaboration in advancing digital transformation.

“Last week, Sweden and Thailand elevated our bilateral relations to a Strategic Partnership. This landmark agreement was signed by our respective foreign ministers and sets out our shared ambition to deepen cooperation in key areas such as sustainable development, green transition, defense, innovation — and importantly — digitalization,” said Mr. Linnér.

“Sweden and Thailand will cooperate around telecommunications, critical infrastructure including 5G, resilient and trusted supply chains, cybersecurity and in safeguarding the free, open, global interoperable and secure internet. The MoU signing between Ericsson and DEPA is a perfect example of how that vision is already being translated into action,“ he added.

The collaboration will encompass knowledge exchange on digital economy policies, best practices, and innovation strategies. Both organizations will jointly explore emerging technologies and use cases through the 5GIX platform, while also supporting Thailand’s digital development goals.

Ericsson is a global leader in 5G and powers 187 live networks across countries. It is recognized as an industry leader having recently topped the Frost Radar™: Global 5G Network Infrastructure Market ranking for the second year in a row. Ericsson has also secured the highest ranking in the recently published Omdia Market Landscape RAN Vendors report for 2025. This recognition highlights Ericsson’s leadership in both business performance and portfolio, underscoring its commitment to innovation and excellence in the industry.

อีริคสันและดีป้าต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรม 5G สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย

อีริคสันและดีป้าต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรม 5G สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย

อีริคสันและดีป้าต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรม 5G สำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย

  • ขยายระยะเวลาร่วมมือกันเพิ่ม 2 ปี ระหว่างภาครัฐและเอกชน นับตั้งแต่ร่วมมือกันครั้งแรกในปี 2565
  • หัวใจสำคัญของการเป็นพันธมิตร คือ การจัดตั้งห้องปฏิบัติการนวัตกรรมและประสบการณ์ 5G ใน Thailand Digital Valley
  • อีริคสันจะส่งมอบโซลูชัน 5G ขั้นสูง ที่ปลอดภัยและมีความยืดหยุ่น เพื่อเร่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนวิสัยทัศน์ Thailand 4.0

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ลงนามขยายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (MoU) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยี 5G ไปปรับใช้และเสริมสร้างความเข้าใจเทคโนโลยี 5G ทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย

ในพิธีลงนามนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารของทั้งสององค์กรเข้าร่วม ได้แก่ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้าดร.ศุภกร สิทธิชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ดีป้า และ มร.อันเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงฯ และ มร.Per Linnér รักษาการเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย ได้ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในครั้งนี้

การขยายระยะเวลาความร่วมมือ 2 ปีนี้ หลังร่วมมือครั้งแรกในปี 2565 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสององค์กรเพื่อขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและพัฒนานวัตกรรมให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ของประเทศไทย

หัวใจสำคัญการต่อยอดความร่วมมือเป็นพันธมิตร คือ การเดินหน้าจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรมและประสบการณ์ 5G (หรือ 5GIX Studio) ซึ่งตั้งอยู่ใน Thailand Digital Valley จังหวัดชลบุรี โดยออกแบบให้เป็นศูนย์ทดสอบและศูนย์บริการ โดยห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายรุ่นใหม่ การแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) และการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตของประเทศไทย

ตั้งแต่ก่อตั้ง 5GIX Studio ขึ้นมา มีพันธมิตรในระบบนิเวศเทคโนโลยีหลากหลายร่วมมือกันพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชัน 5G เชิงนวัตกรรม รวมถึงหุ่นยนต์ เครื่องจักรอัตโนมัติ และโซลูชันกล้องรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

ข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คาดว่าภายในปี 2570 ตลาด 5G ระดับองค์กรของประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนมาจากความต้องการในภาคการผลิต โลจิสติกส์ พลังงาน และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และคาดการณ์ว่าภายในปีหน้า องค์กรไทยกว่า 70% จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้

มร.อันเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “อีริคสันมุ่งมั่นสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคมดิจิทัล ภายใต้วิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญระดับโลกและโซลูชัน 5G ขั้นสูง ที่มีความปลอดภัย และมีความยืดหยุ่น เรามุ่งหวังที่จะช่วยสร้างระบบนิเวศ 5G ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทั้งประเทศ และส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย”

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า กล่าวเสริมว่า “อีริคสันเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในภารกิจของเราเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย เราจะทำงานร่วมกันกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่เดินไปข้างหน้าและส่งเสริมนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”

มร. Per Linnér รักษาการเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าและการร่วมพัฒนานวัตกรรมที่เติบโตมาอย่างยาวนานระหว่างสวีเดนและประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพื่อส่งเสริมการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สวีเดนและประเทศไทยได้ยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราไปสู่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ข้อตกลงสำคัญนี้ได้รับการลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และกำหนดเป้าหมายร่วมกันในการเสริมสร้างความร่วมมือในประเด็นสำคัญ อาทิ การพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การป้องกันประเทศ นวัตกรรม และที่สำคัญคือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้” มร. Linnér กล่าว

“สวีเดนและประเทศไทยจะร่วมมือกันในด้านโทรคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญรวมถึง 5G และห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงการปกป้องอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างอย่างเสรี เชื่อมต่อกันทั่วโลก ให้มีความปลอดภัย การลงนาม MoU ระหว่างอีริคสันและดีป้าถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของวิธีการแปลงวิสัยทัศน์นี้ไปสู่การปฏิบัติจริง” เขากล่าวเสริม

ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล การสรรหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และการพัฒนากลยุทธ์ด้านนวัตกรรม โดยองค์กรทั้งสองจะร่วมกันสำรวจเทคโนโลยีเกิดใหม่และยูสเคสการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม 5GIX พร้อมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลกและเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 187 เครือข่ายทั่วโลก บริษัทยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำอุตสาหกรรม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ติดอันดับหนึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันในรายงาน Frost Radar™: Global 5G Network Infrastructure Market และบริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับสูงสุดในรายงาน Omdia Market Landscape RAN Vendors ประจำปี 2568 ที่เผยแพร่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งการได้รับการยอมรับเหล่านี้เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของอีริคสันทั้งในด้านประสิทธิภาพและผลงานทางธุรกิจ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรต่อการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นเลิศในภาคอุตสาหกรรม