อาลีบาบา คลาวด์ ผสานพลัง ดีป้า เปิดตัวโครงการ “Eye for Thailand” เพิ่มขีดความสามารถในการใช้ AI สร้างสรรค์ดิจิทัล

อาลีบาบา คลาวด์ ผสานพลัง ดีป้า เปิดตัวโครงการ “Eye for Thailand” เพิ่มขีดความสามารถในการใช้ AI สร้างสรรค์ดิจิทัล

อาลีบาบา คลาวด์ ผสานพลัง ดีป้า เปิดตัวโครงการ “Eye for Thailand” เพิ่มขีดความสามารถในการใช้ AI สร้างสรรค์ดิจิทัล

  • ผู้เข้าร่วมการแข่งขันนำ 1 ซึ่งเป็นโมเดลสร้างวิดีโอรุ่นล่าสุดของอาลีบาบา ไปใช้สร้างวิดีโอสั้นที่มี AI เป็นตัวเสริมพลัง เป็นการผสมผสาน AI และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน
  • อาลีบาบา คลาวด์ และ ดีป้า ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมขับเคลื่อนการฝึกอบรมผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล ผ่านอีเลิร์นนิง การฝึกงาน และการสนับสนุนสตาร์ทอัพ

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า: depa) เปิดตัวโครงการ “Eye for Thailand” ซึ่งเป็นโครงการการแข่งขันที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเปิดให้แข่งขันได้ทั่วประเทศ โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงศักยภาพในการใช้ AI สร้างสรรค์เนื้อหาวิดีโอ โครงการนี้เปิดตัวในงาน “AI for Thailand” ที่จัดโดยอาลีบาบา คลาวด์ ในกรุงเทพฯ นับเป็นความร่วมมือครั้งล่าสุดขององค์กรทั้งสองแห่งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการพัฒนาผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลในประเทศไทย ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย และ ทรู ไอดีซี ซึ่งได้นำความเชี่ยวชาญและเครือข่ายเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพโครงการ

การแข่งขันนี้ เป็นการเชิญชวนให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักการตลาด นักออกแบบ นักศึกษา และองค์กรทั่วประเทศไทย นำ Wan2.1 series ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับการสร้างวิดีโอรุ่นล่าสุดของอาลีบาบาและเป็นโมเดลรุ่นล่าสุดของ Tongyi Wanxiang (Wan) ซึ่งเป็นโมเดลพื้นฐานด้านวิดีโอของบริษัทฯ ไปใช้สร้างวิดีโอสั้นที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับธีมหนึ่งธีมที่พัฒนาร่วมกันโดยอาลีบาบา คลาวด์ และ ดีป้า และนำธีมนั้นไปคิดสร้างสรรค์โครงการวิดีโอของตน

การแข่งขันนี้มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมประสาน AI และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย และขยายโอกาสทางวิชาชีพและวิชาการไปพร้อม ๆ กัน ผู้เข้าร่วมจะมีโอกาสสร้างวิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วย AI จัดแสดงผลงานบนเวทีระดับโลก แข่งขันชิงรางวัล ได้สัมผัสกับสถานการณ์การใช้งานจริง รวมถึงได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ด้านการตลาดและธุรกิจ

ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า โครงการ “Eye for Thailand” เป็นโครงการริเริ่มที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านการให้ความสำคัญกับพลังของแอปพลิเคชัน AI และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สามารถปลดล็อกศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ได้ โดยเทคโนโลยีการสร้างวิดีโอขั้นสูงด้วย AI ของอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้เราเสริมศักยภาพให้กับผู้เข้าร่วมแข่งขันให้สามารถค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องผ่านดิจิทัล และติดอาวุธให้พวกเขาด้วยทักษะที่พร้อมรองรับอนาคตไปพร้อม ๆ กัน ในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ดีป้า ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้มีความสามารถ นวัตกรรม และการสร้างโอกาสต่าง ๆ ในเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการสร้างผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล อีกทั้งส่งเสริมนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่จะยกระดับประเทศไทยในด้านความเป็นผู้นำด้าน AI และเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก

นายฌอน หยวน รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “โครงการนี้สะท้อนคำมั่นของเราที่มุ่งเสริมแกร่งให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ด้วยเทคโนโลยี AI และคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพล้ำสมัย เรามุ่งมั่นสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคนี้ ด้วยการผสานรวมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมไว้ด้วยกัน”

คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากอาลีบาบา คลาวด์ ดีป้า และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจะประเมินผลงานที่ส่งเข้าประกวดโดยพิจารณาจากเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ AI การเล่าเรื่อง และความเชื่อมโยงกับแบรนด์ คะแนนสุดท้าย (final scores) จะพิจารณาจากคะแนนโหวตสาธารณะและการประเมินของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ การแข่งขันเริ่มต้นด้วยกิจกรรมเปิดตัวในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 โดยผู้เข้าร่วมสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน การตัดสินจะจัดในช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยจะประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในวันที่ 11 มิถุนายน และเปิดให้โหวตสาธารณะระหว่างวันที่ 11 ถึง 19 มิถุนายน ตามด้วยวัน Demo Day ซึ่งเป็นวันประกาศชื่อผู้ชนะ

Wan2.1 series เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ เป็นโมเดลการสร้างวิดีโอรุ่นแรกที่รองรับข้อความทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ที่ติดอันดับต้น ๆ ของ VBench leaderboard ซึ่งเป็นชุดเกณฑ์มาตรฐานที่ครอบคลุมสำหรับโมเดลการสร้างวิดีโอ

บุกเบิกโครงการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย

โครงการ “Eye for Thailand” ต่อยอดจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างอาลีบาบา คลาวด์ และ ดีป้า ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลในประเทศไทย ทั้งนี้ ผลลัพธ์สำคัญประการหนึ่งของความร่วมมือในครั้งนั้น คือ การเปิดตัวพอร์ทัลอีเลิร์นนิ่งที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้เป็นสาธารณะ ออกแบบมาเพื่อนำเสนอการสอนหลักสูตรคลาวด์คอมพิวติ้งของอาลีบาบา คลาวด์ เป็นภาษาไทย เป็นครั้งแรก

ภายใต้ข้อตกลงนี้ โปรแกรมการฝึกอบรมของอาลีบาบา คลาวด์ จะได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการกับดีป้า และผลิตภัณฑ์คลาวด์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ จะได้รับการบรรจุไว้ใน Thai Digital Catalog ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางของผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล การได้รับความไว้วางใจนี้ เป็นการปูทางให้กับการนำเทคโนโลยีคลาวด์ประสิทธิภาพสูงไปใช้ในวงกว้าง ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนของไทย นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ จะร่วมมือกับดีป้า ส่งเสริมทักษะดิจิทัลในภูมิภาคต่าง ๆ มอบโอกาสการฝึกงานให้กับนักศึกษา และสนับสนุนโครงการสตาร์ทอัพในท้องถิ่นอีกด้วย

Thanakorn Vegetable Oil Products adopts Siemens’ digital logistics software to drive supply chain efficiency in South East Asia

บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด นำซอฟต์แวร์ดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Thanakorn Vegetable Oil Products adopts Siemens’ digital logistics software to drive supply chain efficiency in South East Asia

  • Thailand leading edible oil producer to enhance supply chain efficiency and resilience with Siemens’ digital logistics software

Siemens Digital Industries Software announced today that Thanakorn Vegetable Oil Products Co., Ltd. (TVOP), a leader in Thailand’s edible oil industry, has adopted its Digital Logistics solutions to enhance its supply chain logistics. This is the first deployment of Siemens’ Digital Logistics solutions in South East Asia, underscoring Siemens’ commitment to expanding its footprint in the region’s fast-growing digital supply chain market.

TVOP has implemented Siemens’ AX4-based Transportation Management System, a cloud-based software designed to optimize and monitor transport logistics processes across all modes of transportation and geographies. This deployment aims to enhance the reliability of transport status information for goods and materials, ensuring synchronization with complex inbound receiving operations and improving outbound customer satisfaction.

“We are excited to collaborate with Siemens to drive our digital transformation in supply chain logistics,” said Adul Premprasert, Chief Executive Officer, Thanakorn Vegetable Oil Products. “The AX4 platform will provide us with the tools we need to deliver better service to our customers, improving our operational efficiency and achieve greater supply chain resilience.”

The AX4 platform provides end-to-end visibility across the entire transportation network, real-time shipment tracking, and exception management. This will enable TVOP to streamline collaboration with internal stakeholders and third-party logistics providers, enhancing operational efficiency and reducing manual processing and data entry

Siemens Digital Industries Software will provide consulting and implementation services, with localized support for Thailand. The AX4 platform will be delivered as a cloud-based SaaS solution, hosted and maintained by Siemens Digital Logistics with secure data processing and availability commitments

“TVOP’s decision to adopt our digital logistics platform marks a pivotal moment for Siemens Digital Industries Software in Southeast Asia. This deployment not only showcases the tangible value of our AX4 solution in enhancing visibility, efficiency, and resilience across complex transportation networks. It also signals the beginning of a new chapter as we bring our trusted digital logistics capabilities to one of the most dynamic supply chain regions in the world,” said Alex Teo, managing director and vice president, South East Asia, Siemens Digital Industries Software. ”We are proud to collaborate with TVOP in their transformation journey and remain committed to empowering more businesses in the region to unlock operational excellence through digitalization.”

To learn more about Siemens’ Digital Logistics solutions visit https://plm.sw.siemens.com/en-US/digital-logistics/

Siemens Digital Industries Software helps organizations of all sizes digitally transform using software, hardware and services from the Siemens Xcelerator business platform. Siemens’ software and the comprehensive digital twin enable companies to optimize their design, engineering and manufacturing processes to turn today’s ideas into the sustainable products of the future. From chips to entire systems, from product to process, across all industries. Siemens Digital Industries Software – Accelerating transformation.

บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด นำซอฟต์แวร์ดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด นำซอฟต์แวร์ดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด นำซอฟต์แวร์ดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันพืชของไทยยกระดับประสิทธิภาพและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทานด้วยซอฟต์แวร์ซีเมนส์ดิจิทัลโลจิสติกส์ 

ซีเมนส์ ดิจิทัล อินดัสทรีส์ ซอฟต์แวร์ เผย บริษัท ธนากร ผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด (TVOP) ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำมันพืชของไทย ได้เลือกใช้โซลูชันดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์ เพื่อยกระดับการจัดการโลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำโซลูชันดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์ มาใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของซีเมนส์ในการขยายธุรกิจในตลาดห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้

TVOP ได้นำระบบจัดการการขนส่ง (Transportation Management System) ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม AX4 ของซีเมนส์มาใช้งาน ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยวางแผนและติดตามกระบวนการโลจิสติกส์การขนส่งได้ครอบคลุมทุกช่องทางและพื้นที่การขนส่ง โดยการนำระบบนี้มาใช้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลสถานะการขนส่งสินค้าและวัสดุ ช่วยให้กระบวนการรับสินค้าเข้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าตรงเวลาและพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

นายอดุลย์ เปรมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับซีเมนส์เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านโลจิสติกส์กับห่วงโซ่อุปทานของเรา แพลตฟอร์ม AX4 ให้เครื่องมือที่เราต้องการเพื่อส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น”

แพลตฟอร์ม AX4 ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมของเครือข่ายการขนส่งทั้งหมดได้แบบครบวงจร ติดตามสถานะการจัดส่งแบบเรียลไทม์ และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ TVOP ทำงานร่วมกับทีมงานภายในและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภายนอกได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และลดการทำงานด้วยมือรวมถึงการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน

ซีเมนส์ ดิจิทัล อินดัสทรีส์ ซอฟต์แวร์ จะให้บริการคำปรึกษาและนำเสนอแนวทางการนำไปปรับใช้ พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสมกับประเทศไทย โดยแพลตฟอร์ม AX4 จะถูกส่งมอบในรูปแบบโซลูชัน SaaS บนคลาวด์ ซึ่งโฮสต์และดูแลโดยซีเมนส์ดิจิทัลโลจิสติกส์ ผ่านการประมวลผลข้อมูลที่ปลอดภัยและมีพันธสัญญาด้านความพร้อมใช้งาน

อเล็กซ์ เตียว กรรมการผู้จัดการและรองประธาน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเมนส์ ดิจิทัล อินดัสทรีส์ ซอฟต์แวร์ กล่าวว่า “การตัดสินใจของ TVOP ในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลโลจิสติกส์ของซีเมนส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของซีเมนส์ ดิจิทัล อินดัสทรีส์ ซอฟต์แวร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากการนำมาใช้นี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่จับต้องได้ของโซลูชัน AX4 ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงภาพรวม ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างความยืดหยุ่นให้กับเครือข่ายการขนส่งที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นบทใหม่ของซีเมนส์ ในการนำความสามารถด้านดิจิทัลสำหรับโลจิสติกส์ที่เชื่อถือได้มาสู่ภูมิภาคที่ห่วงโซ่อุปทานมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก”

เราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ TVOP ในการเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และเรายังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจอื่นๆ ในภูมิภาคฯ ปลดล็อกความเป็นเลิศของการดำเนินงานผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” อเล็กซ์ เตียว กล่าวเสริม

Future-proof your tech career: 6 essential human skills for the AI era

Future-proof your tech career: 6 essential human skills for the AI era

Future-proof your tech career: 6 essential human skills for the AI era

Article by: Deb Richardson, Senior Content Strategist, Red Hat Blog

The tech industry is changing as quickly as artificial intelligence (AI) is evolving. Every day we’re seeing new tools emerge to help streamline repetitive tasks, augment creative endeavours and improve decision-making.

Many people are anxious about what the proliferation of AI tools means for the future of their job and career. And that’s completely understandable—these tools are often mindblowing in what they can do based on a handful of simple prompts.

Generative AI (gen AI) is practically brand new but can already:

  • Generate code
  • Write marketing copy
  • Produce graphic design
  • Create art in a vast array of styles
  • Generate full videos, including scripts and music
  • Formulate strategic business plans
  • Develop social media posts
  • …and more

So it’s not surprising that many of us are nervous about our future employment prospects.

But all is not lost.

While it’s essential for most people in the tech industry to learn how to effectively use these new AI-infused tools, there are some human capabilities that machines can’t match—deeply human skills such as intuitive design, creative problem-solving and empathetic understanding. These and other soft skills determine your ability to innovate, to communicate effectively and to navigate complex problems in ways that AI simply can’t replicate.

In this article we dig into some of the soft skills that tech professionals should focus on developing to adapt and thrive in this new age of AI.

6 vital soft skills for an era of AI

While there are an enormous number of AI tools being introduced across our industry, many of which are focused on specific roles and tasks, the soft skills tend to be more universal and things we should all focus on developing and improving, regardless of our role.

  1. Problem-solving

For all that gen AI can do, it cannot match human problem-solving capabilities. It can generate code, but humans are still needed to design efficient and scalable systems, troubleshoot unexpected issues and watch for the bugs and potential security issues that these AI tools can introduce.

While gen AI can help monitor for and discover security anomalies, humans are still needed to evaluate and rate the criticality of these risks. AI-driven automation can perform a huge array of repetitive tasks, but it still needs to be carefully designed and actively monitored.

On the marketing and communications side of things, AI sentiment analysis tools can help quickly detect potential issues, but human judgement is needed in order to respond effectively and defend or build a brand’s reputation.

How to get started

Developing your foundational problem-solving skills is something that happens naturally over time, but there are loads of articles and courses out there that can help you approach it more deliberately and methodically.

  1. Critical thinking

AI is still far from perfect, as large language models (LLMs) are fundamentally limited by their training and the data used in the training process. If you’re using any of these new tools, you should hone your ability to critically evaluate AI outputs, understand their limitations and learn how to identify model biases and potentially toxic or problematic output.

While AI is excellent at detecting patterns, it takes a human to interpret those patterns properly and to spot anomalies that the AI may miss or misinterpret. Avoiding bias and similarly complicated ethical issues also requires human intelligence, as does making sure that AI-enhanced tools and processes continue to meet legal and compliance requirements.

How to get started

While critical thinking can improve naturally with experience, like problem solving it is a skillset that can be deliberately developed over time. It has been said that learning critical thinking skills is the most important part of an undergrad degree, but you don’t have to go to university to build these skills.

LinkedIn Learning has a wide variety of courses focused on improving your critical thinking, as does Khan Academy and Udemy. Of course there’s no shortage of books on the topic as well.

  1. Collaboration

Humans’ ability to collaborate, cooperate and work together is one of our greatest strengths. As the saying goes, “none of us is as good as all of us.” Current AI is still fundamentally limited in this way—it simply cannot match humans’ ability to build relationships and work together.

When developing AI applications, engineers will have to work closely with an ever increasing number of AI specialists, data scientists, product and project managers and other stakeholders. And of course collaboration skills are utterly vital in open source projects, and are the very foundation of how they work.

In other disciplines, such as public relations (PR) and communications, we can use AI to analyze sentiment and media trends, but it takes humans to develop and maintain strong relationships with journalists, partners and other stakeholders. 

How to get started

Collaboration skills are essential for effective teamwork and building trust. There are books you can read and courses you can take (on all of the previously mentioned learning platforms), but you can get started over on YouTube.

  1. Communication

Communication skills are also vital across disciplines in the tech industry. Engineers have to be able to clearly articulate technical ideas and strategic approaches to design and architecture problems, which AI is unable to do.

Security experts have to be able to interpret AI’s findings and communicate those insights so leadership and non-technical teams are able to understand how serious the potential risks are (or aren’t).

And communication is the heart of marketing and PR—AI tools can provide analyses and insights, but humans are needed to craft narratives and tell a brand story that resonates with the people we’re trying to reach.

How to get started

Communication skills enable tech professionals to collaborate effectively, bridge technical and non-technical gaps, and drive innovation by translating complex ideas into clear, actionable strategies. There is a range of different types of communication skills, but focusing on workplace communication is the best place to start.

  1. Pragmatism

AI is an exciting new technology that is quickly being built into what feels like every device and app out there. But in reality, AI is still relatively limited and more effective at some things than others. AI applications should be designed and built to solve real user problems and be strategically aligned to existing business needs.

This ability to be pragmatic, to be able to clearly evaluate the practicality and usefulness of a particular technology or solution, is a fundamentally human strength. Being able to balance “can” and “should” to emphasize a focus on real solutions to actual problems, is something AI tools are currently incapable of doing.

 

Like critical thinking, pragmatism is something we all naturally develop with experience, but like any skill, it is something you can train yourself to become better at with deliberate study and practice.

How to get started

Being pragmatic doesn’t mean being a skeptic or trying to tamp down others’ enthusiasm with stop energy. It’s more about being able to look at potential solutions or approaches with a realistic and measured eye.

As a tech professional, you can become more pragmatic by focusing on real results and choosing practical and effective solutions that work in real-world scenarios. Embrace iterative development, testing and continuous feedback, as this can help keep things practical and grounded.

 

  1. Adaptability

 

Early humans survived and thrived because of their fundamental ability to adapt to changing conditions, which continues to be vital today. As we’ve seen over the past few years, the tech industry is undergoing tectonic shifts, a large part of which is being caused by how quickly AI tools and capabilities are evolving.

How to get started

Improving your adaptability in the workplace largely boils down to cultivating a flexible mindset (simply being open to new things) and engaging in continuous learning. Be open to new ideas and responsibilities, commit to personal development, be proactive in suggesting solutions or improvements when you see issues, and stay current with the (admittedly, often overwhelming) changes in our industry.

 

Wrapping up

It’s appropriate that this article ended talking about continuous learning, because that’s what it’s really all about. AI tools are being deployed across nearly every role and discipline in the tech industry, making many of us concerned about the future of our jobs. But human “soft” skills are increasingly vital in this age of AI—AI can help us all do more, faster, but it cannot replace our ability to solve problems, think critically, communicate effectively, work together, be pragmatic and adapt quickly to these rapidly changing conditions.

It’s natural to be anxious about the future, but for many of us AI presents an incredible opportunity to use these new tools to handle the more repetitive and (frankly) boring parts of our work so we can focus on developing our own deeply human skills and doing the really interesting stuff that AI can’t.

พร้อมรับอนาคตอาชีพในสายงานเทคโนโลยี 6 ทักษะสำคัญที่มนุษย์ยุค AI ต้องมี

พร้อมรับอนาคตอาชีพในสายงานเทคโนโลยี 6 ทักษะสำคัญที่มนุษย์ยุค AI ต้องมี

พร้อมรับอนาคตอาชีพในสายงานเทคโนโลยี 6 ทักษะสำคัญที่มนุษย์ยุค AI ต้องมี

บทความโดย: เด็บ ริชาร์ดสัน, Senior Content Strategist, เร้ดแฮท บล็อก

เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทุกวันนี้เราได้เห็นเครื่องมือใหม่ ๆ เกิดขึ้น เพื่อใช้ทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เสริมความสามารถในงานสร้างสรรค์ และ ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

หลายคนกังวลว่าเครื่องมือด้าน AI ที่มีอยู่อย่างมากมายจะกระทบต่ออนาคตด้านการงานและอาชีพของตน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถทำงานที่น่าทึ่งได้จากคำสั่งง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำ

ความสามารถของ Generative AI (gen AI) เช่น การสร้างโค้ด เขียนคอนเทนต์ทางการตลาด ออกแบบกราฟิก สร้างสรรค์งานศิลปะได้หลากหลายสไตล์ สร้างวิดีโอเต็มรูปแบบพร้อสคริปต์และเพลงประกอบ คิดแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ พัฒนาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ อีกมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการจ้างงานในอนาคต แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปในทางลบเสียทั้งหมด 

แม้ว่าการเรียนรู้การใช้เครื่องมือ AI อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนในแวดวงเทคโนโลยี แต่ยังมีความสามารถบางอย่างของคนที่เครื่องจักรไม่อาจเทียบได้ เช่น การคิดและตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ความเข้าใจที่เกิดจากความเห็นอกเห็นใจ ทักษะมนุษย์เหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างนวัตกรรม ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ และสามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างที่ AI ไม่สามารถทำได้

เร้ดแฮทพาสำรวจ soft skills ที่คนทำงานสายเทคโนโลยีควรให้ความสำคัญ เพื่อปรับตัวและเติบโตในยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

6 soft skills สำคัญที่คนในยุค AI ควรมี

แม้ว่าจะมีเครื่องมือ AI จำนวนมาก แต่เครื่องมือเหล่านั้นมักใช้กับงานเฉพาะทางและบทบาทเฉพาะอย่าง แต่ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์และอารมณ์ (soft skills) กลับเป็นทักษะที่มีความเป็นสากลที่ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือสายงานใดก็ตาม

1.ทักษะในการแก้ปัญหา

AI สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย แต่ความสามารถในการแก้ปัญหานั้นไม่สามารถเทียบกับมนุษย์ได้ AI สามารถสร้างโค้ดได้ แต่มนุษย์ต้องเป็นผู้ออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพ ขยายขนาดได้ แก้ไขปัญหาที่ไม่คาดคิด และเฝ้าระวังจุดบกพร่องและปัญหาความปลอดภัยที่ AI อาจนำมา 

แม้ gen AI จะช่วยตรวจจับความผิดปกติด้านความปลอดภัยได้ แต่คนต้องเป็นผู้ประเมินและจัดอันดับความสำคัญของความเสี่ยงเหล่านี้ ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถดำเนินการซ้ำ ๆ ได้มากมาย แต่ก็ยังต้องอาศัยวิจารณญาณของคนในการออกแบบอย่างรอบคอบและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

ในทางการตลาดและการสื่อสาร เครื่องมือ AI ที่วิเคราะห์ความรู้สึกจากข้อความ (sentiment analysis) ช่วยตรวจจับประเด็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่การตัดสินใจเลือกแนวทางรับมือ หรือการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ยังต้องพึ่งพาการตัดสินใจของคน

การพัฒนาทักษะในการแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ตามประสบการณ์ แต่หากต้องการฝึกฝนอย่างเป็นระบบมีบทความและหลักสูตรมากมายที่ช่วยในการเรียนรู้ได้อย่างมีแบบแผนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  1. ทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ

AI ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) มีข้อจำกัดจากการเทรนและข้อมูลที่ใช้ในการเทรน หากองค์กรใดกำลังใช้เครื่องมือ AI เหล่านี้ ควรให้คนขององค์กรได้ฝึกฝนทักษะในการประเมินผลลัพธ์ของ AI อย่างมีวิจารณญาณ เข้าใจข้อจำกัดของเครื่องมือ และเรียนรู้วิธีระบุอคติของโมเดลและผลลัพธ์ ที่อาจมีปัญหาได้

แม้ AI จะเก่งในการตรวจจับรูปแบบต่าง ๆ แต่การตีความอย่างถูกต้องและการสังเกตความผิดปกติที่อาจถูกมองข้ามยังคงต้องอาศัยคน เช่นเดียวกับการจัดการกับอคติและประเด็นจริยธรรมที่ซับซ้อนก็ต้องอาศัยสติปัญญาและความเข้าใจของคน รวมถึงการตรวจสอบให้เครื่องมือหรือกระบวนการที่ใช้ AI ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ จะพัฒนาได้จากประสบการณ์โดยธรรมชาติ เช่นเดียวกับทักษะในการแก้ปัญหา แต่ก็เป็นทักษะที่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ แม้การเรียนรู้ทักษะนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดของการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังมีแหล่งอื่นนอกมหาวิทยาลัยที่ช่วยคนพัฒนาด้านนี้ได้ เช่น LinkedIn Learning มีหลักสูตรหลากหลายที่เน้นการพัฒนาการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ เช่นเดียวกับ Khan Academy และ Udemy นอกจากนี้ยังมีหนังสือมากมายเกี่ยวกับหัวข้อนี้ให้เลือกอ่านเช่นกัน

  1. ทักษะในการทำงานร่วมกัน

ความสามารถในการทำงานร่วมกัน ร่วมมือกัน และทำงานเป็นทีมเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของคน ดังคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครเก่งเท่ากับทุกคนรวมกัน” (none of us is as good as all of us) ซึ่งปัจจุบัน AI ยังมีข้อจำกัดด้านนี้ และไม่อาจเทียบได้กับความสามารถของคนในการสร้างความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกัน

เมื่อพัฒนานาแอปพลิเคชัน AI ผู้พัฒนาจะต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์และโครงการ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าทักษะการทำงานร่วมกันนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในโปรเจ็กต์ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินงานโครงการเหล่านี้

ในการใช้ประโยชน์ด้านอื่น เช่น ด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสาร เราอาจใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ความรู้สึกของผู้บริโภคหรือแนวโน้มของสื่อได้ แต่ก็ยังต้องอาศัยคนในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับนักข่าว พันธมิตร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ

ทักษะการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการสร้างความไว้วางใจ สามารถเรียนรู้ได้จากทั้งหนังสือและหลักสูตรต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่กล่าวข้างต้น หรือเริ่มต้นง่าย ๆ บน YouTube

  1. ทักษะด้านการสื่อสาร

ทักษะด้านการสื่อสาร มีความสำคัญอย่างยิ่งกับทุกสาขาอาชีพในแวดวงเทคโนโลยี วิศวกรด้านไอทีต้องสามารถให้คำอธิบายแนวคิดทางเทคนิค และแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมได้อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ 

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ต้องสามารถตีความผลลัพธ์ที่ได้จาก AI และสื่อสารข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นให้ฝ่ายบริหารหรือทีมที่ไม่ใช่ทีมเทคนิคสามารถเข้าใจได้ว่า ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้นร้ายแรงหรือไม่เพียงใด 

การสื่อสารเป็นหัวใจของการตลาดและการประชาสัมพันธ์ แม้เครื่องมือ AI สามารถให้การวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกได้ แต่คนคือผู้สร้างสรรค์และบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่โดนใจผู้ที่เราต้องการเข้าถึง

ทักษะการสื่อสารช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดช่องว่างระหว่างทีมเทคนิคและทีมอื่นที่อาจไม่เชี่ยวชาญทางเทคนิค และขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านการแปลงแนวคิดที่ซับซ้อนให้เป็นกลยุทธ์ที่นำไปปฏิบัติได้จริง ทักษะการสื่อสารมีหลายประเภทแต่ควรเริ่มต้นที่การสื่อสารในที่ทำงาน 

  1. ทักษะในการปฎิบัติอย่างรู้จริง

AI เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งขณะนี้ถูกนำไปใช้งานในแทบทุกอุปกรณ์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว AI ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง และมีประสิทธิภาพมากกว่าในบางเรื่อง แอปพลิเคชัน AI ควรได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่แท้จริงของผู้ใช้ และเชื่อมโยงกับความต้องการทางธุรกิจที่มีอยู่

ความสามารถในการประเมินความเป็นไปได้รวมถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีหรือโซลูชันต่างๆ ได้อย่างชัดเจน เป็นจุดแข็งที่แท้จริงของมนุษย์ การรู้จักสร้างสมดุลระหว่าง “สิ่งที่ทำได้” และ “สิ่งที่ควรทำ” โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ด้วยแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน 

เช่นเดียวกับการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ การปฏิบัติอย่างรู้จริงเป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นตามธรรมชาติจากประสบการณ์ แต่ก็เหมือนกับทักษะอื่น ๆ ที่สามารถฝึกฝนได้ผ่านการเรียนรู้และการลงมือปฎิบัติอย่างสม่ำเสมอ 

การเป็นนักปฏิบัติอย่างรู้จริงไม่ได้หมายถึงการมองโลกในแง่ลบหรือคอยปิดกั้นความคิดใหม่ ๆ แต่เป็นการมองแนวทางหรือโซลูชันที่มีศักยภาพในมุมมองที่เป็นจริงและรอบคอบ 

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี สามารถพัฒนาความเป็นนักปฏิบัติอย่างรู้จริงได้โดยมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์จริง และเลือกโซลูชันที่ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์จริง ยอมรับการพัฒนาแบบรอบวนซ้ำ การทดสอบ และการรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แนวทางการทำงานมีความเป็นรูปธรรมและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง 

  1. ทักษะในการปรับตัว

มนุษย์ยุคแรกสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ เพราะมีความสามารถพื้นฐานในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน เห็นได้ชัดจากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเครื่องมือและขีดความสามารถของ AI 

การพัฒนาความสามารถในการปรับตัวในที่ทำงาน โดยพื้นฐานแล้วคือการสร้างทัศนคติที่ยืดหยุ่น ผ่อนสั้นผ่อนยาว (เพียงแค่เปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ) และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เปิดรับแนวคิด ความรับผิดชอบใหม่ ๆ ทุ่มเทให้กับการพัฒนาตนเอง กระตือรือร้นในการเสนอแนวทางแก้ไขหรือการปรับปรุงเมื่อเจอปัญหา และติดตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอยู่เสมอ (แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มากมายจนน่ากังวลใจก็ตาม) 

บทสรุป

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของทักษะทุกอย่าง มีการนำเครื่องมือที่เป็น AI ไปใช้งานในแทบทุกบทบาทและทุกสายงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทำให้หลายคนกังวลเกี่ยวกับอนาคตของงานในมือ แต่ “ทักษะทางสังคมที่ใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น” หรือ “soft skills” กลับมีความสำคัญมากขึ้นในยุคของ AI แม้ AI จะช่วยให้เราทำงานได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น แต่มันไม่สามารถทดแทนความสามารถในการแก้ปัญหา การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกัน ความเป็นเหตุเป็นผล และการปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงได้

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกกังวลกับอนาคต แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว AI กลับเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการใช้เครื่องมือใหม่เหล่านี้จัดการกับงานที่ซ้ำซากและน่าเบื่อ เพื่อให้เราได้หันมาโฟกัสกับการพัฒนาทักษะมนุษย์อย่างลึกซึ้ง และได้ทำสิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ ซึ่ง AI ไม่สามารถทำได้