ทรูมันนี่ จับมือ ลาซาด้า ผนึกกำลังพันธมิตรระดับกลยุทธ์ ชู TrueMoney Wallet เป็นอีวอลเล็ทหลักบนแอป Lazada

TMN x Lazada

ทรูมันนี่ จับมือ ลาซาด้า ผนึกกำลังพันธมิตรระดับกลยุทธ์ ชู TrueMoney Wallet เป็นอีวอลเล็ทหลักบนแอป Lazada

เตรียมผสานฟีเจอร์ “Smart Pay” และบริการทางการเงินอื่น ๆ เพื่อมอบอิสระการช็อปให้ลูกค้าเลือกชำระเงินผ่านหลากรูปแบบที่ต้องการผ่านแพลตฟอร์ม ทรูมันนี่ วอลเล็ทพร้อมมอบส่วนลด + โค้ดส่งฟรี! มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ต้อนรับเทศกาล 11.11 นี้

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศจับมือ ลาซาด้า ผู้นำอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพันธมิตรระดับกลยุทธ์ (Strategic Partner) พร้อมชู TrueMoney Wallet เป็นอีวอลเล็ทหลักบนแอปพลิเคชันลาซาด้าและเตรียมผสานฟีเจอร์บริการทางการเงิน รวมถึงแคมเปญและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมาย

นางสาวจิตติมา จันทรมโรภาส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจออนไลน์เพย์เม้นต์และดิจิทัลเพย์เมนท์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “การสานต่อความร่วมมือระหว่างทรูมันนี่ และ ลาซาด้า ไปสู่พันธมิตรระดับกลยุทธ์ในครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทฯ ในการผสานความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอีวอลเล็ทและอีคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ ด้วยช่องทางชำระเงินที่หลากหลายสะดวกสบาย และปลอดภัย จากนี้ เราพร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการทางการเงินใหม่ๆ ร่วมกันเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งรวมถึงการสร้างแคมเปญการตลาดที่มอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

คุณธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากการขยายตัวและเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้อีเพย์เมนต์เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมไปถึงช่วยยกระดับประสบการณ์ช็อปและยังเพิ่มความสะดวกให้แก่ทั้งลูกค้าและผู้ขายอีกด้วย จากความสำเร็จในการเปิดมินิแอปพลิเคชันลาซาด้า ใน TrueMoney Wallet เมื่อปีที่ผ่านมา ลาซาด้าจึงเล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในการก้าวเป็นพันธมิตรระดับกลยุทธ์ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้นักช็อปสามารถเลือกช่องทางจับจ่ายแบบออนไลน์ที่หลากหลายและตรงตามความต้องการมากที่สุด ผ่านนวัตกรรมทางการเงินของ TrueMoney Wallet ที่ผสานอยู่ในแพลตฟอร์มของลาซาด้า”

โดยภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทรูมันนี่ และ ลาซาด้า จะร่วมกันผลักดันนวัตกรรมการชำระเงินที่อำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่แบบนิวนอร์มัล ผ่านฟีเจอร์บริการทางการเงินต่างๆ ของ TrueMoney Wallet บนแอปลาซาด้า ที่พัฒนาร่วมกัน อาทิ ‘Smart Pay’ ฟีเจอร์ที่จะเข้ามาเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินออนไลน์ให้แก่ลูกค้าและช่วยให้สามารถตั้งค่าจัดเรียงลำดับการชำระเงินอัตโนมัติได้ตามที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงการเลือกชำระผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อใช้จ่ายกับร้านค้าชั้นนำมากมายบนแพลตฟอร์ม โดยไม่ต้องเสียเวลาเติมเงิน ซึ่งจากการสำรวจของทรูมันนี่ พบว่าการเพิ่มช่องทางการชำระเงินได้อย่างอิสระ จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนบนแพลตฟอร์ม และสร้างโอกาสในการปิดการขายให้กับร้านค้า นอกจากนี้ ยังมีบริการทางการเงินอื่น ๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคต

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก We Are Social ระบุคนไทยช็อปออนไลน์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก (83.6%) มากกว่าค่าเฉลี่ยของโลก (76.8%) และช็อปผ่านมือถือสูงติดอันดับ 2 ของโลก (74.2%) สอดคล้องกับผลสำรวจของ ETDA ที่คาดการณ์ว่าในปีนี้มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยจะเติบโตแตะ 4.01 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นเทรนด์การช็อปปิ้งออนไลน์ได้กลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทย และยังเป็นทางรอดของการทำธุรกิจในยุคนี้ โดยที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและอีเพย์เม้นต์ต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม e-Commerce ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

โดยในช่วง ม.ค.- ต.ค. ปีนีั พบว่าปริมาณการชำระเงิน เมื่อต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน TrueMoney Wallet เพิ่มขึ้นเกือบ x2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจำนวนผู้ใช้ที่ชำระเงินเพื่อช็อปผ่านแอปลาซาด้า เพิ่มขึ้นมากกว่า x3.4 เท่า

นอกเหนือจากความร่วมมือระดับกลยุทธ์ ทรูมันนี่ และ ลาซาด้า ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ต้อนรับเทศกาล Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว เพื่อเอาใจนักช็อป โดยการมอบส่วนลดและโค้ดส่งฟรีมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท พิเศษ! นักช็อปสามารถกดรับคูปองส่วนลดมูลค่าสูงสุด 1,111 บาท เมื่อเลือกชำระเงินผ่าน TrueMoney Wallet ในแอปลาซาด้าวันที่ 11 พฤศจิกายน 64 นี้เท่านั้น คลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://tmn.co/tmnlpinlzd

 

ทรูมันนี่แนะ ‘3 สเต็ป’ เสริม ‘สติ’ เกราะป้องกันไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งลวงให้กู้

TrueMoney

ทรูมันนี่แนะ '3 สเต็ป' เสริม ‘สติ’ เกราะป้องกันไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งลวงให้กู้

ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นหนี้ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รายได้ที่เคยมีก็หดหาย และภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง ธปท. เผยไตรมาส 2 ปี 2564 คนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงถึง 14.27 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 89.3% ต่อ GDP ส่งผลให้ความต้องการ “สินเชื่อเงินด่วน” เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะ “สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” ที่ได้กลายเป็นช่องทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มอบความสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย และมีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงมิถุนายนที่ผ่านมามีลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลทั่วประเทศกว่า 2 แสนราย และมียอดปล่อยสินเชื่อกว่า 2 พันล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการด้านสินเชื่อออนไลน์และพัฒนาการของนวัตกรรมทางการเงินที่ก้าวล้ำ

เมื่อธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลเติบโตก้าวกระโดดไปสู่ยุค Cashless Lending เหล่าแก๊งมิจฉาชีพก็ปรับตัวตามเช่นกัน ปัจจุบันมีการล่อลวงออนไลน์มากมายหลายรูปแบบ แต่ที่กำลังระบาดที่มีให้เห็นบ่อยในตอนนี้คือการหลอกให้กู้เงิน ข้อมูลจาก บช.สอท. เผยว่าช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พบเรื่องร้องเรียนกว่า 700 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยแก๊งเหล่านี้จะใช้กลวิธีล่อลวงผู้บริโภคในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ส่ง SMS พร้อมแนบลิงค์ปลอมให้คลิก โทรมาหว่านล้อมและเสนอเงินกู้พร้อมล้วงเอาข้อมูลส่วนบุคคล หรือปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชั่นให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล และหลอกให้โอนเงินค่าธรรมเนียมหรือชำระดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนที่จะได้เงินต้น

true money

ด้วยความห่วงใย ทรูมันนี่ ในฐานะผู้ให้บริการฟินเทคชั้นนำในประเทศไทย ขอนำเสนอ ‘3 สเต็ป’ เสริมเกราะป้องกัน ‘สติ’ ให้ผู้ใช้อีวอลเล็ทไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งลวงให้กู้ ดังนี้

สเต็ป 1 – พิสูจน์ตัวตนผู้ให้กู้ และเช็คให้มั่นใจว่าใช่จริง
ปัจจุบันเราสามารถเช็ครายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อต่าง ๆ ที่ได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์ของ ธปท. ซึ่งรวบรวมรายชื่อบริษัทฯ ที่ให้บริการด้านสินเชื่อไว้อย่างครบครัน อาทิ รายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อที่เป็นแบงก์และนอนแบงก์, รายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล และรายชื่อผู้ให้บริการระบบ Peer to Peer Lending Platform ซึ่งมีรวมกันกว่า 200 ราย แต่เห็นแค่ชื่อแล้วก็ยังวางใจเต็มร้อยไม่ได้ เพราะก็มีมิจฉาชีพที่ใช้วิธีลอกเลียนแบบโลโก้ ไปเปิดเว็บไซต์ หรือห้องแชตต่างๆ เพื่อล่อลวงเช่นกัน ดังนั้น ถ้าอยากให้ชัวร์ เมื่อสนใจบริการควรติดต่อผู้ให้บริการนั้น ๆ ผ่านช่องทางที่เป็นทางการเช่นในแอปฯ หรือฝ่ายบริการลูกค้าที่ได้รายละเอียดจาก Official website จะดีที่สุด

สเต็ป 2 – มีสติ เห็นอะไรไม่ชอบมาพากล อย่ารีบตัดสินใจ
เปรียบเทียบรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน และระวังว่าเวลา “กิเลส” และ “ความจำเป็น” มันมาคู่กันมักจะทำให้ขาดการวิเคราะห์ แยกแยะ จนตกเป็นเหยื่อได้โดยไม่ทันระวัง ดังนั้น หากรู้สึกมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ตั้งแต่การให้โอนเงินก่อนเป็นค่าธรรมเนียมในการขอกู้เงินหรือค่าดอกเบี้ยก่อนได้รับเงินต้น หรือการเสนอดอกเบี้ยที่แพงเกินกฎหมายกำหนด ไปจนถึงการขอเอกสารข้อมูลส่วนตัวที่มากมายเกินความจำเป็น ต้องตั้งสติให้ดี และอย่ารีบตัดสินใจ เพราะเหยื่อหลายคนหลงโอน แต่เมื่อรู้ว่าไม่ได้เงินต้นสักบาทก็สายไปแล้ว และบัญชีที่โอนเงินไปก็ตามตัวไม่ได้ เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้มักหลอกให้คนอื่นเปิดบัญชีมาให้อีกทอดหนึ่ง โดยการใช้ค่าตอบแทนล่อเพื่อนำมาใช้ในทางทุจริตและให้สาวถึงตัวไม่ได้

สเต็ป 3 – ต้องขอความช่วยเหลือให้เร็ว อย่ารอจนผู้ร้ายลอยนวล
บางคนที่โชคร้ายตกเป็นเหยื่อแก๊งให้กู้เงิน นอกจากจะสูญเสียเงินก้อนแล้วไม่ได้เงินกู้ หรือต้องเสียสุขภาพจิตจากการโดนก่อกวนในรูปแบบต่าง ๆ ตอนถูกทวงหนี้มหาโหด ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกแคลงใจกับเว็บไซต์หรือแอปฯ ที่หลอกกู้เงิน ขอให้รีบติดต่อหรือปรึกษากับผู้ให้บริการหรือบริษัทฯ ต้นทางเพื่อสอบถามทันที และเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกโดยมิจฉาชีพ ให้รีบแจ้งความกับตำรวจท้องที่ หรือร้องศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือคลิกดูข้อแนะนำเมื่อถูกมิจฉาชีพล่อลวงให้โอนเงินจากทรูมันนี่

สุดท้ายนี้ ทรูมันนี่ ขอย้ำเตือนให้ผู้ใช้ระมัดระวังผู้แอบอ้างหลอกให้บริการสินเชื่อ โดยใช้ชื่อ ทรูมันนี่ หรือ แอสเซนด์ นาโน และขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ ไม่มีนโยบายขอให้ลูกค้าโอนเงินค่าธรรมเนียมใด ๆ เพื่อสมัครสินเชื่อทุกประเภท รวมถึงการขอหมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต หรือรหัส OTP หากลูกค้าท่านใดพบการกระทำดังกล่าวที่แอบอ้างตราสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายการค้าหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับชื่อแบรนด์ TrueMoney โปรดแจ้งได้ที่ Call Center เบอร์ 1240 บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

 

Truemoney

แอสเซนด์ มันนี่ เผยมูลค่าบริษัททะยาน 1,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หลังระดมทุนครั้งล่าสุด และก้าวสู่การเป็นฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย

แอสเซนด์ มันนี่

แอสเซนด์ มันนี่ เผยมูลค่าบริษัททะยาน 1,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หลังระดมทุนครั้งล่าสุด และก้าวสู่การเป็นฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย

  • ล่าสุด นักลงทุนรายใหม่ โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แอนท์ กรุ๊ป พาแอสเซนด์ มันนี่ สู่ทำเนียบยูนิคอร์น ในการระดมทุนรอบล่าสุดนี้
  • มุ่งขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านการขยายบริการ ทรูมันนี่ วอลเล็ท (TrueMoney Wallet) และบริการทางการเงินดิจิทัลอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนวัตกรรมบริการทางการเงินเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เครือเจริญโภคภัณฑ์มองการลงทุนครั้งนี้เป็นการดันธุรกิจใหม่เข้าสู่ยุค 4.0 เสริมแพลตฟอร์มแห่งโอกาสรับการเปลี่ยนแปลงหลังโควิด
  • เผยยอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) รวม 6 ประเทศ สูงถึง 14,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อปี 2563 
แอสเซนด์ มันนี่_ฟินเทค

แอสเซนด์ มันนี่ บริษัทฟินเทคชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยบริษัทฯ มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภายหลังระดมทุนรอบล่าสุดจำนวน 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และก้าวสู่การเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย โดย แอสเซนด์ มันนี่ มีแผนเดินหน้าขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในระดับภูมิภาค เพื่อช่วยให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินมีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ ทรูมันนี่ วอลเล็ท และขยายบริการทางการเงินดิจิทัลต่าง ๆ อาทิ สินเชื่อดิจิทัล การลงทุนดิจิทัล และการโอนเงินข้ามประเทศ ให้ครอบคลุมในระดับภูมิภาค

โดยในการระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ ยังได้บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ (Bow Wave Capital Management) จากสหรัฐอเมริกา มาลงทุนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แอนท์ กรุ๊ป

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่การก่อตั้ง แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คน บริษัทฯ กำลังขยายแพลตฟอร์มและบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ดังนั้น แอสเซนด์ มันนี่ จึงจัดว่าเป็น Financial Platform of Opportunity หรือ แพลตฟอร์มทางการเงินที่มอบโอกาสให้กับผู้คนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งภูมิภาค ความสำเร็จในการระดมทุนของ แอสเซนด์ มันนี่ ยังเป็นความภาคภูมิใจในระดับชาติ เพราะสะท้อนศักยภาพของไทย ในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศให้สามารถประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไประดับนานาชาติได้”

ก่อนหน้านี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของโลก UN Global Compact ระดับ LEAD การขับเคลื่อนด้านการระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ธุรกิจ 4.0 ของเครือฯ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่คนทุกภาคส่วน และตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค

ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ปัจจุบันเป็นฟินเทคสัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่ให้บริการครอบคลุม 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ทั้งนี้ แอสเซนด์ มันนี่ คือผู้ให้บริการ ทรูมันนี่ แพลตฟอร์มดิจิทัลเพย์เมนต์และบริการทางการเงินดิจิทัลชั้นนำที่ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านราย ผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท และเครือข่ายตัวแทนกว่า 88,000 รายทั่วภูมิภาค

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “จากการที่ แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติไทยที่ได้เติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคนี้เปรียบเสมือนบ้านเกิดของเรา บริษัทฯ จึงต้องการช่วยให้ผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคสามารถเข้าถึงโอกาสที่มากขึ้นผ่านนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่เรามอบให้ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ที่ผ่านมา เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนซึ่งมาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ในขณะเดียวกัน การได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์น ยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้เราสามารถดำเนินพันธกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายได้มากขึ้น ต่อจากนี้ เราจะร่วมกับพันธมิตรของเราในภูมิภาคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านแพลตฟอร์มและบริการทางการเงินอันหลากหลายของเรา”

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “แอสเซนด์ มันนี่ กำลังขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดและมอบบริการทางการเงินอันหลากหลายให้กับผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจและบริการครอบคลุมการเงินดิจิทัลอย่างครบครัน ได้แก่ บริการสินเชื่อดิจิทัล บริการเงินฝากดิจิทัล และบริการลงทุนแบบดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มการเงินที่ทำให้การเงินเป็นเรื่องง่าย ซึ่งช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย ผู้ไม่มีงานประจำ รวมถึงคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินได้โดยง่าย  นอกจากนี้ แอสเซนด์ มันนี่ ยังมีบริการโอนเงินภายในประเทศและโอนเงินข้ามประเทศผ่านเครือข่ายตัวแทน และได้ช่วยตัวแทนเหล่านี้ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจะเดินหน้าพันธกิจของเรา ซึ่งก็คือการช่วยเหลือคนอีกหลายล้านให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการส่งมอบนวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งาน และแพลตฟอร์มที่ลูกค้ามอบความไว้วางใจสูงสุด”

นายอิไท เลมแบร์เกอร์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการลงทุน บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ กล่าวว่า “ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ได้เร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราภูมิใจที่ได้สนับสนุน แอสเซนด์ มันนี่ ให้บรรลุพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค”

แอสเซนด์ มันนี่ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2563 บริษัทฯ มียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) รวม 6 ประเทศ อยู่ที่ 14,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดการทำธุรกรรมรวมสูงสุดที่ 84% ระหว่างปี 2562 – 2563

“เพย์ โซลูชั่น” จับมือ “ทรูมันนี่” ขยายฐานร้านค้า เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท หนุนธุรกิจรับ Cashless สู้โควิด

“เพย์ โซลูชั่น” จับมือ “ทรูมันนี่” ขยายฐานร้านค้า เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท หนุนธุรกิจรับ Cashless สู้โควิด

บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของเมืองไทย ร่วมกับ ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายฐานร้านค้าที่เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อสนับสนุนธุรกิจออนไลน์ในยุคสังคมไร้เงินสด และช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายและขยายกิจการให้เข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่รวมถึงผู้ใช้ทรูมันนี่มากกว่า 19 ล้านราย

ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เผยว่า ‘โควิด-19’ เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายไปสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว พร้อมระบุในอีก 12 เดือนหลังจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะเพิ่มการใช้จ่ายออนไลน์อีกถึง 43% นับเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติสำหรับผู้ประกอบการในการเร่งมองหาและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเสริมช่องทางการขายเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่องทางการรับชำระเงินผ่านอีวอลเล็ทถือเป็นหัวใจสำคัญในการซื้อ-ขายสินค้าผ่านออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด

เพย์ โซลูชั่น_ทรูมันนี่

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกับทรูมันนี่ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการพัฒนาบริการชำระเงินใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อพร้อมสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบการและร้านค้า เนื่องจากการซื้อขายสินค้าและการชำระเงินของผู้บริโภควันนี้เปลี่ยนไปใช้จ่ายแบบอีเพย์เม้นต์มากขึ้น เราจึงเพิ่มช่องทางรับชำระผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งแบบ Cashless ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายใหม่ ๆ ผ่านช่องทางชำระเงินที่รวดเร็วในแบบที่ต้องการ”

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การจับมือกับ เพย์ โซลูชั่น จะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจและร้านค้าเชื่อมต่อธุรกิจกับแพลตฟอร์มอีเพย์เม้นต์ของทรูมันนี่ที่มอบทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ร้านค้าจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงผู้ใช้มากกว่า 19 ล้านรายของเรา อีกทั้งเพิ่มศักยภาพธุรกิจและโอกาสปิดการขายได้รวดเร็ว”

4 ขั้นตอนการ “ชำระเงิน” ด้วยแอปฯ TrueMoney Wallet กับ เพย์ โซลูชั่น

ทรูมันนี่_ทรูมันนี่ วอลเล็ท

ทรูมันนี่ เปิดแคมเปญ #เติมใจ ร่วมเติม ”พลังใจ” และ ”พลังกาย” ให้กันในยามวิกฤติ

ทรูมันนี่_เติมใจ

ทรูมันนี่ เปิดแคมเปญ #เติมใจ ร่วมเติม ”พลังใจ” และ ”พลังกาย” ให้กันในยามวิกฤติ

ทรูมันนี่ ชวนผู้ใช้ “เติมพลังใจ” ให้กันด้วยการส่งข้อความให้กำลังใจผ่านแอปฯ พร้อมร่วม “เติมพลังกาย” โดยกดรับสิทธิพิเศษ เพื่อรับสินค้าเครื่องดื่มและขนม ผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งรับชำระด้วย TrueMoney Wallet ที่ร่วมรายการ พร้อมรับเงินคืน 100%* สูงสุด 40 บาท

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดแคมเปญ #เติมใจ ชวนผู้ใช้ร่วมส่งกำลังใจผ่านการสร้างสรรค์ข้อความในภาพผ่านแอปฯ และแชร์เพื่อ “เติมพลังใจ” ให้กันในยามวิกฤติ พร้อมขอเชิญร่วม “เติมพลังกาย” โดยกดรับสิทธิพิเศษ เพื่อรับสินค้าเครื่องดื่มและขนมผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งรับชำระด้วย TrueMoney Wallet ที่ร่วมรายการ พร้อมรับเงินคืน 100%* สูงสุด 40 บาท โดยก่อนหน้านี้ ทรูมันนี่ ได้สานกิจกรรม “เติมน้ำใจ” โดยบริจาคเงิน 1 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์กับมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทยในโครงการ “ทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #เติมใจ เช่นกัน

ทั้งนี้ แคมเปญ #เติมใจ ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

    • เติมพลังใจ” : เชิญชวนผู้ใช้ส่งกำลังใจดี ๆ ให้กันโดยใส่ข้อความในภาพเพื่อทำเป็นอีการ์ดแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ ครอบครัว หรือคนรักผ่านฟีเจอร์พิเศษในแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ด้วยทรูมันนี่เชื่อว่าเวลานี้ “กำลังใจ” คือสิ่งสำคัญที่ช่วยเติมพลังบวกให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน
    • “เติมพลังกาย” : ทรูมันนี่ จับมือ 6 พันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งรับชำระด้วยทรูมันนี่ วอลเล็ท ที่ร่วมรายการได้แก่ Bluemart, Sun Vending, Vending Plus, True Vending Machine, CP Retailink และ CP Ram รวมกว่า 10,000 ตู้ทั่วประเทศ ชวนผู้ใช้เติมพลังกายด้วยการกดรับสิทธิ์เพื่อไปรับสินค้าเครื่องดื่มและขนมจากตู้ และรับเงินคืน 100%* สูงสุด 40 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม ศกนี้ (หรือจนกว่าสิทธิ์จะเต็ม)
    • เติมน้ำใจ” : ทรูมันนี่ รวบรวมรายชื่อมูลนิธิและโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งเปิดช่องทางบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิและโครงการเหล่านี้ผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท อาทิ การระดมทุนจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจแบบไฮโฟลว์และอุปกรณ์การแพทย์เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนในการใช้ต่อลมหายใจผู้ป่วย ภายใต้โครงการ “ทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน” โดยมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย ซึ่งได้ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปแล้วบางส่วน โดยทรูมันนี่ยังเปิดรับบริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมเนื่องจากยังคงมีโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปในแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อดูรายชื่อมูลนิธิและโครงการต่าง ๆ ที่สนใจเพื่อร่วมบริจาคได้

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร.1240 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/termjai/

*หมายเหตุ:  

    • สิทธิมีจำนวนจำกัด
    • 1 บัตรประชาชน (เจ้าของบัญชีที่ได้รับการยืนยันตัวตน) ต่อ 1 สิทธิ์
    • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับสิทธิ์เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูเพิ่มเติมได้ทาง https://www.truemoney.com/vending-termjai-terms-condition/
แคมเปญเติมใจ