การเชื่อมต่อข้อมูลด้วยเทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

Disruption as the new normal?

การเชื่อมโยงข้อมูลด้วยเทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

บทความโดย อิซาเบลลา กุสุมาวาตี, รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี, อินฟอร์

มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2569 ตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะมีมูลค่าสูงถึง 29.94 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  การใช้งาน AI โดยผู้บุกเบิกธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า AI กำลังเป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ด้าน มีผลต่อซัพพลายเชนอาหารในทุกแง่มุม ช่วยขับเคลื่อนการตัดสินใจที่ชาญฉลาด และทำให้สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในทุกการแข่งขันที่สำคัญ

แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมฯ จะเคยได้ยินเรื่องของ AI มาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความสับสนค่อนข้างมากเกี่ยวกับวิธีการและประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับจากการปรับใช้เทคโนโลยี AI  อธิบายง่าย ๆ คือ AI มีศักยภาพในการปรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารทั้งหมดให้เหมาะสม, เอื้ออำนวยต่อการใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะที่ออกแบบเฉพาะให้กับแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงทุกส่วนของซัพพลายเชน ตั้งแต่แหล่งกำเนิดไปจนถึงมือผู้บริโภค รวมถึงพัฒนาให้ซัพพลายเชนต่าง ๆ มีความคล่องตัว และขับเคลื่อนให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น

หลายคนคิดว่า AI เป็นสมองกลและเทคโนโลยีสำหรับปฏิบัติงานที่ซับซ้อน ซึ่งเคยต้องใช้สติปัญญาของมนุษย์จึงจะสำเร็จ แต่ AI ทำได้มากกว่านั้น ทำให้เกิดแนวทางใหม่ ๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่สามารถกระทำแบบแมนนวลได้  และนี่เองคือจุดเริ่มต้นที่ AI เข้ามามีบทบาทในการให้คำแนะนำที่ถูกต้อง และทันเวลาสำหรับงานเกือบทุกด้านของซัพพลายเชนอาหาร  โดยใช้ความสามารถในการพิจารณาคุณค่าของข้อมูล, พารามิเตอร์, สถานการณ์แบบ what-if และปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ที่มากมายมหาศาล  และท้ายที่สุด ก็จะทำให้ธุรกิจเกิดความได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่สามารถเลียนแบบได้เลย หากปราศจากการใช้เทคโนโลยี AI

AI ในอุตสาหกรรมอาหารประกอบด้วยเทคโนโลยีหลากหลายชนิด ตั้งแต่หุ่นยนต์ไปจนถึงแมชชีนเลิร์นนิง แล้วเราจะเห็นอุตสาหกรรมอาหารใช้งาน AI ในด้านใด และเทคโนโลยีนี้ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรบ้าง

การเกษตรแม่นยำ

การใช้เทคโนโลยี AI ทำให้การเกษตรมีความแม่นยำมากขึ้น  ด้วยเหตุนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลการเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพควบคู่ไปกับการพยากรณ์อากาศ ทำให้สามารถกำหนดพื้นที่และเวลาสำหรับให้น้ำหรือใส่ปุ๋ยได้อย่างเหมาะสม  สำหรับภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มีฟาร์มเลี้ยงกุ้งแห่งหนึ่งใช้เทคโนโลยี AI ในการจัดการปริมาณอาหารสำหรับเลี้ยงกุ้งให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการให้อาหารที่มากหรือน้อยจนเกินไป ช่วยลดอัตราส่วนอาหารต่อการผลิต (Feed conversion ratio – FCR) ทำให้วงจรการผลิตกุ้งสั้นลง และเพิ่มผลิตผลขึ้นได้ถึงสองเท่าโดยไม่ต้องใช้ระบบที่มีความเข้มข้นสูง

สำหรับภาคการเกษตรของประเทศไทย ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ผลการศึกษาของ Association of Equipment Manufacturers (AEM) พบว่า การเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) สามารถเพิ่มผลผลิตได้ราว 6% ช่วยประหยัดการใช้ปุ๋ยและสารปราบศัตรูพืชได้เกือบ 15% และ ลดการใช้น้ำได้ถึง 21% ดังนั้น การนำ Precision Farming มาใช้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพของภาคการเกษตรไทย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ราคาปุ๋ยมีแนวโน้มแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

EIC มองว่า หากส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าสู่ภาคการเกษตรไทยได้สำเร็จ ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือเกษตรกรไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยเหลือส่วนต่าง ๆ ในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรได้อีกด้วย ซึ่งจะส่งผลให้การยกระดับภาคการเกษตรไทยทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น อนึ่ง ภาคการเกษตรนั้นเป็น 1 ใน 5 ของภาคส่วนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด การนำเทคโนโลยีมาปรับรูปแบบของการเกษตรจะสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมให้ภาคการเกษตรมีความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันมีแนวโน้มที่จะรุนแรง และแปรปรวนมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย

กลยุทธ์ด้านราคา

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยหลาย ๆ ประการ ก็จะพบว่าเทคโนโลยี AI ยังสามารถกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย  โดยแอปพลิเคชัน AI สามารถวิเคราะห์ตัวแปรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น ฤดูกาล, ราคาคู่แข่ง, โปรโมชัน, ความต้องการของลูกค้า ฯลฯ ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนของการตั้งราคาและแนวโน้มต่าง ๆ ที่ผ่านมา พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดของสินค้าและราคาที่ควรขาย เพื่อเพิ่มรายได้สูงสุด  ปัจจุบันมีบริษัทส่วนผสมเบเกอรีชั้นนำของยุโรปใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมชนิดนี้ เพื่อให้ได้คำแนะนำด้านราคาที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าที่หลากหลายของบริษัท 

บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง

ความผันผวนของซัพพลายเชนอาหารส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา  ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของ AI ที่ช่วยให้ค้นพบวิธีการทำงานใหม่ ๆ ที่ดีกว่าได้  เช่น เครื่องมือ AI ที่เหมาะสมจะสามารถคาดการณ์เวลาที่เรือเดินทะเลจะมาถึง ช่วยให้ผู้ผลิตคำนวณเวลาที่วัตถุดิบจะมาถึงได้แม่นยำยิ่งขึ้น  และเป็นการให้รายละเอียดในระดับที่สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างสิ้นเชิง  เพราะไม่เพียงแต่ผู้ผลิตจะเห็นภาพตอนที่ส่วนผสมจะมาถึงได้ถูกต้องมากขึ้นเท่านั้น แต่เทคโนโลยียังสามารถนำปัจจัยต่าง ๆ มาพิจารณาร่วมด้วย เช่น ระยะเวลาขนถ่ายสินค้าที่โรงงานที่ช่วยให้กำหนดตารางเวลาการผลิตได้แม่นยำขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มผลผลิตสูงสุด เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า ข้อมูลที่ละเอียดขนาดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ AI เป็นรากฐานสำคัญของซัพพลายเชนที่แม่นยำ คล่องตัวและคาดการณ์ได้มากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นและนำไปใช้ได้จริง เพื่อจะได้ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งไปอีกก้าว

ความยั่งยืน

นอกจากนี้ AI ยังส่งผลดีในประเด็นความยั่งยืนต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย  โดยธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกที่สร้างขึ้น โดยแอปพลิเคชัน AI ควบคุมการใช้น้ำและพลังงานให้น้อยที่สุด ทำให้มั่นใจได้ถึงการผลิตที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการลดของเสียที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตทั้งหมด  ในทำนองเดียวกัน การจับคู่ข้อมูลจำเพาะแบบแมชชีนเลิร์นนิงและการจัดสรรสต็อก จะช่วยทำให้ผู้ผลิตสามารถใช้สต็อกที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยยังคงรักษามาตรฐานได้ตามที่ลูกค้าต้องการ 

สำหรับธุรกิจที่มองการณ์ไกลยังมีการใช้ AI กำหนดวันหมดอายุแบบไดนามิกที่ปรับได้ตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพร่วมกับข้อมูลอายุการเก็บรักษาของส่วนผสม  ดังนั้น AI จึงตอบโจทย์ที่ว่า ‘เราจะสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้อย่างปลอดภัย โดยพิจารณาจากคุณภาพของวัตถุดิบที่มีอยู่ได้หรือไม่’ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้สินค้ามีอายุการขายที่นานขึ้น พร้อมลดของเสียและเพิ่มรายได้ไปในตัว ขณะเดียวกันเทคโนโลยี AI สามารถทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตใช้ชั้นวางของอัจฉริยะได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนราคาสินค้าไปตามอายุการเก็บรักษาที่เหลืออยู่และประวัติระบบขายหน้าร้าน ซึ่งจะช่วยลดของเสียและเพิ่มผลกำไรได้อีกทางหนึ่ง

เพิ่มผลผลิตสูงสุด

ยิ่งไปกว่านั้น AI ยังสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในด้านการเพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Internet of Things (IoT) ร่วมกับแมชชีนเลิร์นนิง ที่ทำให้การตั้งค่าเครื่องเป็นไปอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด เช่น ผู้ผลิตสามารถสอบถามถึงวิธีการเพิ่มผลผลิตสูงสุด โดยพิจารณาจากคุณภาพของส่วนผสมและสภาวะต่าง ๆ ของกระบวนการ  ผู้ผลิตสามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มผลผลิตของกระบวนการให้สูงสุดในทุกขั้นตอน โดยพิจารณาจากพารามิเตอร์ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มากมายมหาศาล

AI คือการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ภาคอาหารและเครื่องดื่มสร้างขึ้น และใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจตัวแปรซับซ้อนจำนวนมากที่เกิดในอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น  เมื่อมีธุรกิจจำนวนมากขึ้นลงทุนในเทคโนโลยี AI ซัพพลายเออร์ก็จะสามารถพัฒนาโซลูชัน AI ที่สร้างสรรค์ได้มากขึ้น  โดยจะนำการเรียนรู้และประสบการณ์ของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมาใช้เป็นเทมเพลต AI ที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน  เพื่อส่งมอบข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ

AI ต้องใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ ตราบใดที่มีข้อมูล AI จะสามารถระบุแนวโน้มและรูปแบบของข้อมูล ถอดบทเรียนจากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อให้ธุรกิจนำไปใช้งานต่อ การประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงลึกนี้จะทำให้การดำเนินงานดีขึ้น เร็วขึ้น และให้ผลกำไรมากขึ้นในทุกขั้นตอนของซัพพลายเชน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่พร้อมตอบสนองและยืดหยุ่นไปทั่วโลก

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Asian leader and SaaS veteran sets sights on aggressive cloud adoption across the fastest-growing region for Infor

 Infor, the industry cloud company, today announced the appointment of Terry Smagh as senior vice president and general manager for Asia Pacific and Japan. Based in Singapore, Smagh will be responsible for growing Infor’s business and driving customer success across key markets in the region, including Australia and New Zealand, Greater China, Japan, India, Southeast Asia and Korea.

“Terry is a seasoned expert in the Asia Pacific enterprise software market and comes armed with over 20 years of international experience in driving exponential revenue and market growth,” shared Wolfgang Kobek, executive vice president and general manager for international business at Infor. “We are thrilled to have him onboard to lead our fast-growing APJ region, which is rife with opportunity. As Asia’s businesses seek to scale their investments in technology, they are looking for software that will help drive greater agility, efficiencies, resilience, and innovation across their operations, at speed and scale. With Terry’s passion for people and unyielding devotion to driving exceptional customer-centric outcomes, I am confident that he will lead our team and customers into the next stage of growth, and further strengthen Infor’s roots in the APJ region.”

Smagh brings a deep industry expertise in SaaS and data analytics to his role at Infor and has a proven track record in helping customers transform and grow their businesses across the region. He joins Infor following senior leadership roles at BlackLine, IBM, and Qlik, where he played an instrumental role in driving revenue growth opportunities and profitability.

A Singaporean at heart, Smagh also has an extensive understanding of local and regional market nuances and growth opportunities, having worked in regional roles for most of his career.

With a background in entrepreneurship, Smagh is passionate about scaling businesses and grooming leaders, and a huge believer of “get the right team, and the rest will follow”.  “We are in a people business — empathy, humility and respect are the attributes I look for in a leader,” said Smagh. “It’s about developing and motivating a high-performing team that’s collaborative, thrives under pressure and enjoys coming to work every day. I believe that we can foster success and commitment through culture and constant reinforcements on holistic customer engagements and experiences. My goal for talent retention and recruitment is simple – we must continue to stay interested and vested in our people, and create a Best Place to Work in the process.”

“Businesses today have moved past the point of merely navigating economic recovery and uncertainty. Instead, they are doubling down and investing aggressively in building the competencies, technologies and skillsets that will truly position them to thrive in a new era of business, and fast. Cloud will continue to play a crucial role in that,” said Smagh. “I am honored to be joining the Infor family and I believe that Infor’s unique, purpose-built CloudSuites for industry position us well to deliver on these demands, and to accelerate greater time-to-value for businesses. This is an increasingly crucial competitive differentiator for organizations, and I look forward to working closely with my team to deliver on that crucial difference for our customers.”

Smagh will be responsible for spearheading growth for Infor across a broad range of sectors in APJ, including industrial manufacturing, food and beverage, automotive, high tech, distribution and logistics.

อินฟอร์แต่งตั้ง เทอร์รี สมา เป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

อินฟอร์แต่งตั้ง เทอร์รี สมา เป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับอินฟอร์ นำประสบการณ์ด้าน SaaS ทำให้เกิดการใช้คลาวด์อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค

อินฟอร์ (Infor) บริษัทซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรม แต่งตั้ง นายเทอร์รี สมา ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ รับผิดชอบการขยายธุรกิจและขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกค้า Infor ในตลาดสำคัญ ๆ ของภูมิภาค ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์, จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลี

นายโวล์ฟกัง โคเบ็ก รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Infor กล่าวว่า “เทอร์รีเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในตลาดซอฟต์แวร์ระดับองค์กรในเอเชียแปซิฟิก พร้อมประสบการณ์ระดับนานาชาติมากกว่า 20 ปีในการขับเคลื่อนรายได้และขยายตลาดให้เติบโตแบบทวีคูณ  บริษัทฯ รู้สึกยินดีที่ได้เทอร์รีมาเป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยโอกาสในการดำเนินธุรกิจ  จากการที่ธุรกิจในเอเชียพยายามปรับเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยี ทำให้ต้องมองหาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่น และความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น ทั้งในด้านความเร็วและการปรับขยายเพื่อการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร  ผมเชื่อมั่นว่าเทอร์รีจะนำพาทีมและลูกค้าของเราเติบโตไปอีกระดับ พร้อมเสริมรากฐานของ Infor ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้แข็งแกร่งต่อไป ด้วยความใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนและการอุทิศตนอย่างแน่วแน่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”

นายเทอร์รีนำประสบการณ์ของอุตสาหกรรมเชิงลึกด้าน SaaS ซึ่งเป็นบริการซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานบนระบบคลาวด์และการวิเคราะห์ข้อมูล มาใช้ในการบริหารงานที่ Infor พร้อมผลงานที่ประสบความสำเร็จในการช่วยพลิกโฉมและทำให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตทั่วทั้งภูมิภาค  ก่อนร่วมงานกับ Infor เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่ BlackLine, IBM และ Qlik โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้และผลกำไร

จากประสบการณ์การทำงานในระดับภูมิภาคต่างๆ ทำให้เทอร์รีมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความแตกต่างและโอกาสในการเติบโตของตลาดท้องถิ่นและตลาดระดับภูมิภาค 

ด้วยภูมิหลังของการเป็นผู้ประกอบการ ทำให้นายเทอร์รีกระตือรือร้นเกี่ยวกับการขยายธุรกิจและการสร้างผู้นำ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในประโยคที่ว่า “คัดสรรทีมที่เหมาะสม และส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้นเอง”  โดยนายเทอร์รีกล่าวว่า “จากการที่เราอยู่ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร ดังนั้นคุณลักษณะที่ผมมองหาในตัวผู้นำคือการเอาใจใส่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเคารพต่อผู้อื่น เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับการพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจทำให้ทีมงานมีประสิทธิภาพสูง และทำงานร่วมกันทุกวันภายใต้แรงกดดันได้อย่างมีความสุข ผมเชื่อมั่นว่า เราสามารถส่งเสริมความสำเร็จและความมุ่งมั่นผ่านวัฒนธรรมขององค์กร โดยมุ่งเน้นที่การมีส่วนร่วมและประสบการณ์ของลูกค้าแบบองค์รวม  เป้าหมายง่าย ๆ ของผมในแง่ของการรักษาผู้มีความรู้ความสามารถและการสรรหาบุคลากร คือเราต้องสนใจและเอาใจใส่บุคลากรของเราเสมอ เพื่อทำให้องค์กรของเราเป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุด”

นายเทอร์รีกล่าวว่า “ปัจจุบันธุรกิจได้ก้าวมาถึงจุดที่ไม่ใช่แค่เตรียมพร้อมรับมือกับการฟื้นตัว และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จะต้องมุ่งมั่นต่อแนวทางปฏิบัติและลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาความสามารถ เทคโนโลยี และชุดทักษะ ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว โดยระบบคลาวด์ยังคงมีบทบาทที่สำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก  ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมครอบครัว Infor และเชื่อมั่นว่า CloudSuite ที่มีเอกลักษณ์และออกแบบอย่างเฉพาะเจาะจงให้กับแต่ละอุตสาหกรรมของ Infor จะทำให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยเร่งระยะเวลาที่ลูกค้ารับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรให้เร็วขึ้น เป็นตัวสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขันที่สำคัญมากขึ้นสำหรับองค์กร  และผมพร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม เพื่อสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นนั้นให้กับลูกค้าของเรา”

ทั้งนี้ นายเทอร์รีจะรับผิดชอบในการเป็นผู้นำการเติบโตของ Infor ในภาคส่วนต่าง ๆ ของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมด้านการผลิต, อาหารและเครื่องดื่ม, ยานยนต์, เทคโนโลยีชั้นสูง, การจัดจำหน่าย และโลจิสติกส์

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022 Gartner® Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022 Gartner® Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises

Infor®, the industry cloud company, today announced that Gartner® Inc. has positioned Infor, for the second consecutive time, as a Leader in the 2022 Gartner Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises.  

Infor also announced today that Gartner, in its 2022 Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, a companion report to the Magic Quadrant, scored Infor highest in three Use Cases – including the ERP for Midsize Enterprises Use Case, the ERP for Process Manufacturing Use Case, and the ERP for Discrete Manufacturing Use Case. In addition, Infor received the second highest score from Gartner in the ERP for Distribution of Goods Use Case.

Infor’s position as one of the Leaders in this Gartner Magic Quadrant was based on the Gartner evaluation of Infor’s Ability to Execute and Completeness of Vision.

Download a complimentary copy of the 2022 Gartner Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, published Sept. 26.

“We are honored to again be recognized by Gartner as a Leader in this Magic Quadrant – and to receive the highest scores in three Use Cases evaluated in the companion Critical Capabilities report,” said Soma Somasundaram, Infor Chief Technology Officer and President of Products. “As a company with deep vertical industry expertise, Infor strives to deliver prescribed industry processes as part of our products, which accelerates our customers’ time-to-value.

“Following this prescribed delivery approach cuts down on customizations, variability, time to implement, and cost,” he noted. “Our customers can deploy industry-specific, out-of-the-box cloud solutions and uptake new functionality quickly and easily.”

In its 2022 Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Gartner notes that, “Product-centric organizations are rapidly adopting cloud ERP applications with superior process automation and analytic capabilities. Application leaders should use this Magic Quadrant to evaluate cloud ERP vendors as part of a composable strategy that emphasizes standardization and agility.”

Infor CloudSuite solutions are industry-specific and are delivered as cloud services on Amazon Web Services’ (AWS’) secure and scalable infrastructure. Infor CloudSuites utilize Infor’s leading technology platform, Infor OS, to power next-generation user experiences, integration and workflows – which can help increase productivity and collaboration. Visit Infor’s Industry solutions page to learn more. 

Gartner, Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Greg Leiter, Dixie John, Robert Anderson, Tim Faith, 26 September 2022.

Gartner, Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, 28 September 2022, Dixie John, et al.

Gartner does not endorse any vendor, product or service depicted in its research publications, and does not advise technology users to select only those vendors with the highest ratings or other designation. Gartner research publications consist of the opinions of Gartner’s research organization and should not be construed as statements of fact. Gartner disclaims all warranties, expressed or implied, with respect to this research, including any warranties of merchantability or fitness for a particular purpose.

Gartner and Magic Quadrant are registered trademarks of Gartner, Inc. and/or its affiliates in the U.S. and internationally and are used herein with permission. All rights reserved.

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

อีกทั้งยังได้รับคะแนนสูงสุดด้านการใช้งานเฉพาะสามประเภท ในรายงาน Gartner Critical Capabilities Cloud ERP for Product-Centric Enterprise 

Infor® บริษัทผู้ให้บริการด้านคลาวด์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท ประกาศว่า Gartner® Inc. ได้จัดให้ Infor เป็นผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน Gartner Magic Quadrant™ ประจำปี 2022

Infor ยังเปิดเผยว่า ใน Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นรายงานร่วมกับ Magic Quadrant ได้จัดให้ Infor ได้คะแนนสูงสุดด้านการใช้งานใน 3 ประเภทนี้ ได้แก่ ERP for Midsize Enterprises Use Case, ERP for Process Manufacturing Use Case และ ERP for Discrete Manufacturing Use Case นอกจากนี้ Infor ยังได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสองจาก Gartner ในด้าน ERP for Distribution of Goods Use Case ด้วยเช่นกัน

การได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้นำใน Gartner Magic Quadrant ครั้งนี้ มาจากการประเมินความสามารถของ Infor ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดที่เกิดจากการตอบโจทย์ลูกค้าในปัจจุบัน และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับความต้องการทางการตลาดในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต

ลิงก์สำหรับดาวน์โหลดสำเนาของ Gartner Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 กันยายน 

นายโซมา โซมาซันดาราม หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Infor กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยกย่องจาก Gartner Magic Quadrant ให้เป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ และได้รับคะแนนสูงสุดด้านการใช้งานเฉพาะ 3 ประเภทจากการประเมินในรายงาน Critical Capabilities  ในฐานะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะด้านอย่างลึกซึ้ง Infor จึงมุ่งมั่นที่จะรวบรวมกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่เป็นมาตรฐานทั้งหลายไว้ในผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งจะช่วยเร่งระยะเวลาที่ลูกค้ารับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรให้เร็วขึ้น”

นายโซมากล่าวว่า “การปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานที่บริษัทฯ เตรียมไว้ให้นี้ จะช่วยลดการปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการ, ความเปลี่ยนแปลง, เวลาในการใช้งาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  ทำให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โซลูชันคลาวด์ที่พร้อมใช้งานทันทีสำหรับอุตสาหกรรมแต่ละประเภท และใช้ฟังก์ชันใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

Gartner ได้ระบุไว้ใน Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ว่า “องค์กรที่เป็น product-centric ที่เน้นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์และความต้องการของลูกค้า กำลังปรับใช้แอปพลิเคชัน cloud ERP ที่มีคุณสมบัติด้านกระบวนการอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ที่เหนือกว่าอย่างรวดเร็ว ผู้นำด้านแอปพลิเคชันควรใช้ Magic Quadrant นี้เพื่อประเมินผู้จำหน่าย cloud ERP โดยกำหนดให้อยู่ในส่วนของกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างมาตรฐานและความคล่องตัว”

Infor CloudSuite เป็นโซลูชันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท และให้บริการแบบคลาวด์บนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ของ Amazon Web Services (AWS) โดยใช้ Infor OS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำของ Infor ขับเคลื่อนประสบการณ์ ตลอดจนการบูรณาการและเวิร์กโฟลว์ของผู้ใช้งานยุคใหม่ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและการทำงานร่วมกัน เยี่ยมชมและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Industry solutions page 

Gartner, Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Greg Leiter, Dixie John, Robert Anderson, Tim Faith, 26 September 2022.

Gartner, Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, 28 September 2022, Dixie John, et al.

Gartner does not endorse any vendor, product or service depicted in its research publications, and does not advise technology users to select only those vendors with the highest ratings or other designation. Gartner research publications consist of the opinions of Gartner’s research organization and should not be construed as statements of fact. Gartner disclaims all warranties, expressed or implied, with respect to this research, including any warranties of merchantability or fitness for a particular purpose.

Gartner and Magic Quadrant are registered trademarks of Gartner, Inc. and/or its affiliates in the U.S. and internationally and are used herein with permission. All rights reserved.