Adding AI to your distribution toolkit

Adding AI to your distribution toolkit

Adding AI to your distribution toolkit

By Terry Smagh, Senior Vice President and General Manager for Asia Pacific and Japan, Infor

Across most industries, the buzz is about finding use cases that promote the value of artificial intelligence. But, how will the distribution industry specifically benefit? And, where can AI create value for your business and workers?

First, there was robotic process automation (RPA), and then chatbots. They started dumb, handling menial tasks. But, infused with AI, they got smarter and added more value to their output, moving into all types of business and operation. Now almost any digital office or production application comes with AI features baked in, and they are learning fast.

For distribution leaders and IT teams, there is plenty to focus on already without getting distracted by possibilities that haven’t quite materialized yet (think self-driving vehicles, augmented reality glasses, drone deliveries, etc.). But the rise of AI will not fade away because it’s making so many tasks quicker and easier. So here’s what you need to know.

What is artificial intelligence?

In short, AI is software, linked to data, or sensors, and capable of processing it, learning from it, and providing a valuable output. That might be an insight based on complex data, predicting supply variations, or performing big data tasks (facial recognition, medical scans, voice chat, and more) incredibly quickly.

AI use has grown dramatically thanks to the massive scale of the cloud, with powerful processors crunching complex math and accessing huge data sets, often in real-time.

To the end user, AI is just another service that might be called “predictive analytics” or “smart learning” to give it a more business-friendly name. Whatever the descriptor, AI is tasked with performing a process, with all the magic working underneath. 

Using AI in distribution

Distribution businesses that rely on cloud solutions like Infor© CloudSuite Distribution Enterprise and Infor CloudSuite Distribution, update with new features at a steady cadence with AI becoming just another tool for users to experiment with and extract value from. For today’s distributors looking to be ready for tomorrow, AI can:

Manage suppliers

Many distributors are rightly proud of their supplier relations, but AI and machine learning can inspect the data behind their service and suggest ways to deliver improved supplier performance, ironing out process inefficiencies or product weaknesses that might only be visible in easily neglected returns logs.

Improve the sales experience

AI can constantly tweak prices or display dynamic recommended buying options to increase the chance of completing a sale. Based on customer history and market conditions, AI-powered sales applications can suggest volume discounts using both sales data and sentiment analysis. 

Optimize your inventory

Most distributors already run inventory applications to keep the right amount of stock ordered for today, but AI can monitor sales patterns and ensure that the right stock is in the right warehouse constantly as seasons, markets, and products or supplies change.

AI can also monitor transport costs and supplier charges, finding the most cost-effective ways to purchase, deliver, and distribute goods to-and-from your warehouse operations. It can provide buyers with recommendations, and update routings, ensuring the fastest service for customers. 

Maximize sales and buying efforts

With AI making an increasingly powerful appearance in business processes and management tools, it can take over many of the dull and time-consuming tasks that workers used to put up with. The extra time can be spent building relationships with customers up and down the supply chain, providing them with data-driven insights, and highlighting your company as one on the cutting edge.

Make it easy for everyone to use

Everyone from a new warehouse staffer to the CIO will get maximum value from their AI tools if you choose a platform with preconfigured AI models. This makes machine learning more accessible through low-code and no-code implementations. And the automated retraining means hands-off maintenance. Infor’s Coleman AI offers these capabilities.

In summary

In just a few short years, AI solutions have crossed from science fiction into business reality, delivering on their potential to save time, cut costs and deliver value through smart insights. Fear of AI has largely been left in the rearview mirror, and this is only the beginning of AI’s place in technology.

Some useful insights from Deloitte’s just-published 5th annual State of AI in the Enterprise

report highlights:

    • 42% of firms already use algorithmic supply chain planning.
    • 65% of firms buy an AI service rather than build their own.
    • 82% of respondents surveyed indicated their employees believe that working with AI technologies will enhance their performance and job satisfaction.
    • But there is more to do on risk, transparency, and security.

These insights and opportunities to accelerate automation will empower distribution companies to take a greater interest as AI services become a feature of all applications and services.

เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้าของคุณด้วย AI

Adding AI to your distribution toolkit

เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้าของคุณด้วย AI

บทความโดย เทอร์รี สมา, รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, บริษัทอินฟอร์

ขณะนี้อุตสาหกรรมส่วนใหญ่กำลังพูดถึงเรื่องราวการใช้งานต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของปัญญาประดิษฐ์ (AI)  แต่อุตสาหกรรมการกระจายสินค้าจะได้รับประโยชน์อย่างเฉพาะเจาะจงได้อย่างไร และจะสามารถใช้ AI เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและพนักงานในด้านใดได้บ้าง

เทคโนโลยีนี้เป็นซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทำงานด้วยกระบวนการโรบอตแบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation: RPA) ต่อมาก็พัฒนาเป็นแชตบอตที่พูดไม่ได้สำหรับจัดการงานง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษ แต่เมื่อมีการนำมาผสานรวมกับ AI จึงทำให้ฉลาดขึ้นและทำให้ได้ผลผลิตที่มีมูลค่ามากขึ้น จนในที่สุดมีการนำไปใช้กับธุรกิจและการดำเนินงานทุกประเภท  ปัจจุบันออฟฟิศหรือแอปพลิเคชันการผลิตที่เป็นดิจิทัลส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์ AI ต่าง ๆ ติดตั้งมาเบ็ดเสร็จ ซึ่งสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ผู้นำด้านการกระจายสินค้าและทีมไอทีปกติก็มีเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจมากมายอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมาเสียสมาธิกับเรื่องที่ยังไม่เป็นรูปร่างชัดเจน (เช่น ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง, แว่น AR ที่ใช้เทคโนโลยีเสริมจินตนาการ, การส่งของด้วยโดรน ฯลฯ) แต่สิ่งที่เราทุกคนจำเป็นต้องทราบคือ การใช้ AI มีแต่จะเพิ่มขึ้น เพราะมันทำให้งานมากมายหลายประเภทรวดเร็วและง่ายขึ้น 

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร

กล่าวโดยสรุป AI คือซอฟต์แวร์ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลหรือเซ็นเซอร์ สามารถประมวลผล เรียนรู้จากข้อมูล และให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ โดยอาจเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน การคาดการณ์ความผันแปรของอุปทาน หรือการดำเนินงานด้านบิ๊กดาต้า (การจดจำใบหน้า, การสแกนทางการแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค, การแชทด้วยเสียง และอื่น ๆ) ที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วเหลือเชื่อ

การใช้งาน AI เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเนื่องจากสเกลขนาดมโหฬารของระบบคลาวด์ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์อันทรงพลัง ทำให้สามารถคำนวณคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนและเข้าถึงชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้แบบเรียลไทม์

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป AI เป็นเพียงอีกบริการหนึ่งที่อาจอยู่ในชื่อ “การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์” หรือ “การเรียนรู้ที่ชาญฉลาด”เพื่อให้เข้าใจง่ายและเหมาะสมสำหรับธุรกิจมากขึ้น  แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรก็ตาม AI ก็สามารถดำเนินการกระบวนใด ๆ ได้ราวกับมีเวทมนตร์รองรับ

การใช้ AI ในการกระจายสินค้า

สำหรับธุรกิจกระจายสินค้าที่ต้องใช้โซลูชันระบบคลาวด์ เช่น Infor© CloudSuite Distribution Enterprise และ Infor CloudSuite Distribution ธุรกิจเหล่านั้นจะได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดย AI จะกลายเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับทดลองและนำประโยชน์มาใช้  สำหรับดิสทริบิวเตอร์ที่ต้องการเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคต สามารถใช้ AI ในเรื่องต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

บริหารจัดการด้านซัพพลายเออร์

ดิสทริบิวเตอร์จำนวนมากพึงพอใจในความสัมพันธ์ของตนกับซัพพลายเออร์ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง  แต่ AI และแมชชีนเลิร์นนิงสามารถตรวจสอบข้อมูลที่อยู่เบื้องหลังบริการ และแนะนำวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ได้ ช่วยขจัดความไร้ประสิทธิภาพของกระบวนการ หรือจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์ที่อาจมองเห็นได้ในบันทึกการส่งคืนเท่านั้นซึ่งอาจถูกละเลยได้ง่าย

ปรับปรุงประสบการณ์การขาย

AI สามารถปรับราคาหรือให้คำแนะนำในการซื้อได้แบบไดนามิก เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายแอปพลิเคชันการขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสามารถแนะนำส่วนลดตามปริมาณสินค้า โดยพิจารณาจากข้อมูลการขายและการวิเคราะห์ความรู้สึก อิงตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่ผ่านมาและตามสภาวะตลาด

เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง

ดิสทริบิวเตอร์ส่วนใหญ่ใช้แอปพลิเคชันสินค้าคงคลัง เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าในสต็อกมีเพียงพอ ในขณะที่ AI สามารถมอนิเตอร์รูปแบบการขายและตรวจสอบให้แน่ใจว่า สต็อกสินค้าที่ถูกต้องจัดเก็บอยู่ในตำแหน่งในคลังสินค้าที่ถูกต้องตลอดเวลา  และตรงตามเทศกาล/ฤดูกาล ความต้องการตลาด และเมื่อผลิตภัณฑ์หรือซัพพลายต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ AI ยังสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งและค่าธรรมเนียมซัพพลายเออร์ เพื่อหาวิธีการซื้อ จัดส่ง และกระจายสินค้าไป-กลับจากการดำเนินงานคลังสินค้าได้อย่างคุ้มค่าที่สุด  และสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ซื้อพร้อมอัปเดตเส้นทาง เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่รวดเร็วที่สุด

เพิ่มยอดขายและการซื้อสินค้าให้ได้มากที่สุด

เมื่อ AI มีประสิทธิภาพมากขึ้นในกระบวนการทางธุรกิจและเครื่องมือการจัดการ ก็จะสามารถเข้ามาแทนที่งานที่น่าเบื่อและกินเวลามากมายที่พนักงานทำ  ทำให้สามารถใช้เวลาที่เพิ่มขึ้นไปกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดห่วงโซ่อุปทาน พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึก และวางตำแหน่งองค์กรของคุณให้เป็นบริษัทที่ทันสมัย

ใคร ๆ ก็ใช้ได้

ทุกคนตั้งแต่พนักงานคลังสินค้าคนใหม่ไปจนถึงผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือ AI  หากเลือกแพลตฟอร์มที่มีโมเดล AI ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้า  เพราะจะทำให้เข้าถึงแมชชีนเลิร์นนิงแบบใช้โค้ดน้อยและไม่ใช้โค้ดได้ง่ายขึ้น  นอกจากนี้การฝึกอบรมซ้ำโดยอัตโนมัติหมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาด้วยตนเอง เช่น แพลตฟอร์ม Coleman AI ของ Infor ที่มาพร้อมความสามารถเหล่านี้

กล่าวโดยสรุปคือ ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่ปี โซลูชัน AI ได้ก้าวข้ามจากนิยายวิทยาศาสตร์มาสู่ความเป็นจริงทางธุรกิจ โดยมอบศักยภาพในการประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย และสร้างมูลค่าผ่านข้อมูลเชิงลึกอันชาญฉลาด ทำให้ความกลัว AI ส่วนใหญ่กลายเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว และนี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นบทบาทของ AI 

ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์บางส่วนจากรายงาน State of AI in the Enterprise ประจำปีครั้งที่ 5 ของ Deloitte แสดงให้เห็นว่า

    • ธุรกิจ 42% ใช้การวางแผนห่วงโซ่อุปทานแบบอัลกอริทึมแล้ว
    • ธุรกิจ 65% ต้องการซื้อบริการ AI แทนที่จะสร้างเอง
    • ผู้ตอบแบบสำรวจ 82% ระบุว่า พนักงานของตนเชื่อว่าการทำงานกับเทคโนโลยี AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจในการทำงาน
    • อย่างไรก็ตาม ยังมีงานที่ต้องทำอีกมากในเรื่องความเสี่ยง ความโปร่งใส และความปลอดภัย

ข้อมูลเชิงลึกและโอกาสในการเพิ่มความเร็วให้กับระบบอัตโนมัติเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจกระจายสินค้าให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น เนื่องจากบริการ AI ได้กลายเป็นฟีเจอร์ของแอปพลิเคชันและบริการทั้งหมด  

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี AI จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570) ซึ่งกำหนดยุทธศาสตร์หลัก 5 ประการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการนำ AI มาใช้ในประเทศ เช่น การเตรียมความพร้อมสำหรับ การประยุกต์ใช้ AI โดยคำนึงถึงข้อพิจารณาด้านจริยธรรมและกฎหมาย, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อการพัฒนา AI ที่ยั่งยืน, การเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ และการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา AI  โดยแผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ ด้วยการจัดการกับปัญหาและใช้ประโยชน์จากความเป็นไปได้ต่าง ๆ 

Applied Artificial Intelligence: The Key to Success During Economic Uncertainty in the Food & Beverage Industry

Supply Chain’s Wild Ride Continues

Applied Artificial Intelligence: The Key to Success During Economic Uncertainty in the Food & Beverage Industry

By Terry Smagh, Senior Vice President and General Manager for Asia Pacific and Japan, Infor

In the face of high inflation and increased prices, innovative food and beverage companies have turned to artificial intelligence (AI) and more specifically machine learning (ML) to drive efficiency and cut costs. Increased investment in applied AI and implementation of ML solutions helps food & beverage organizations to reduce waste, improve business processes and meet increased demand in a complex and unstable supply chain. Most importantly, food & beverage companies in the cloud have an advantage to more quickly kickstart the use of ML due to having the data, analytics and ML readily available as a service. As food & beverage companies continue to delve into applied AI, the ability to host and visualize data in the cloud will be critical to identify opportunities to optimize operations, cut costs and reduce waste. 
 
One way that AI helps food and beverage companies is by improving the accuracy and speed of product recommendations and pricing strategies in sales. With the currently volatile raw material and energy prices, food & beverage companies must dynamically determine the right product offerings and price point to sustain sales volumes. Global bakery ingredients business Zeelandia Group has addressed the challenges of higher costs and lack of available bakery ingredients by deploying a ML model that recommends products and prices to be offered to the bakeries based on what similar customers are buying. Through the implementation of applied AI, Zeelandia Group achieved an 83% faster time to prepare product recommendations for customers, cutting the time down from 30 minutes to 5 minutes. As a result of product recommendations taking less time, Zeelandia Group employees were able to provide a better customer experience in addition to increased revenue per transaction and share of wallet per customer. 
 
Another area where food and beverage companies have applied AI and ML is sustainability. Food and beverage organizations have turned toward ML to help reduce waste and identify inefficiencies within the supply chain. For example, leading global provider of goat and organic cow cheese, Amalthea, has turned to applied AI to make the cheese quality more predictable and to maximize yield, build customer loyalty and boost sustainability. Previously, Amalthea could only manually analyze milk yield on a weekly basis, which made it difficult to adjust process parameters steering the process to optimize the yield. By leaning on ML, Amalthea can now view the yields immediately in addition to receiving direct insight into what is causing a yield change. This helps Amalthea to reduce its overall waste from manufacturing, as the company can quickly identify pain points and improve processes simultaneously. These changes have had a direct impact on the company’s profitability and bottom line, as for every 1 percent increase in yields, Amalthea expects to save approximately 500,000 euros.
 
Furthermore, the global labor shortage has persisted and has interrupted the output of the food & beverage industry. This global labor shortage can also be attributed to the new generation of workers, who are looking for life-long employment opportunities and value-driven careers rather than working in a factory or in customer service. Given the increased pressure to maintain supply with heightened demand, food & beverage businesses are investing in manufacturing automation and Industry 4.0 technologies to account for the lack of employees. For instance, businesses have utilized AI with robots to automate labor-intensive tasks that previously required human eyes and decisions, such as sorting, grading, cutting and slicing. Moreover, investing and implementing the latest Industry 4.0 technologies has been attracting young talent hungry individuals to use the latest innovation to improve global food & beverage challenges, such as sustainable fishing. Leading animal nutrition company Nutreco relies on the latest Industry 4.0 technologies for precision farming of shrimps. Nutreco has achieved additional production cycles of healthier shrimps, while at the same time using 30% less feed. Specifically, Nutreco uses audio sensors in aquaculture to listen to the shrimps, understanding when they are hungry. AI determines when and how much the shrimps must be fed to overall help reduce feed waste while prioritizing shrimp growth. 
 
With the unprecedented becoming the norm in the food & beverage industry, applied AI will be imperative for businesses to work smarter, not harder. It’s clear that with ML solutions, organizations can save on costs, sustainability can be improved, and workers can focus on delivering on customer experience rather than on mundane tasks. Food and beverage organizations do not have a choice to adapt in the face of economic uncertainty. Applied AI is imperative to ensure business profitability midst economic downturn and skyrocketing inflation. 
 

Applied AI กุญแจสู่ความสำเร็จท่ามกลางความผันผวน ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

Supply Chain’s Wild Ride Continues

Applied AI กุญแจสู่ความสำเร็จท่ามกลางความผันผวน ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

บทความโดย เทอร์รี สมา, รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, บริษัทอินฟอร์

เมื่อเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและราคาสินค้าที่สูงขึ้น บริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่มองการณ์ไกลต่างหันมาใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโดยเฉพาะแมชชีนเลิร์นนิง (ML) มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพและลดต้นทุนในทุก ๆ ด้าน  การลงทุนเพิ่มขึ้นในโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์ (Applied AI) ที่เป็นการนำ AI พื้นฐานต่าง ๆ มารวมเป็นระบบเพื่อตอบโจทย์ในธุรกิจและการใช้ ML จะช่วยให้บริษัทอาหารและครื่องดื่มลดของเสีย ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและผันผวนได้  และที่สำคัญที่สุดคือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ระบบคลาวด์จะได้เปรียบในการเริ่มต้นใช้ ML ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะข้อมูล การวิเคราะห์ และ ML ล้วนมีพร้อมให้ใช้งานในรูปแบบ as a service แล้ว จากการที่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มยังคงศึกษาและลงทุนด้าน Applied AI เพิ่ม ทำให้ความสามารถในการโฮสต์และแสดงภาพข้อมูลบนระบบคลาวด์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการระบุวิธีปรับปรุงการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่าย และลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด

การให้คำแนะนำด้านผลิตภัณฑ์ที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมกลยุทธ์การกำหนดราคาขาย เป็นวิธีหนึ่งที่ AI สามารถช่วยบริษัทอาหารและเครื่องดื่มได้  ความผันผวนของราคาวัตถุดิบและพลังงานในปัจจุบันทำให้บริษัทอาหารและเครื่องดื่มต้องตัดสินใจเรื่องข้อเสนอผลิตภัณฑ์และราคาที่เหมาะสมได้ตลอดเวลาเพื่อรักษายอดขายของบริษัทไว้ให้ได้

Zeelandia Group ธุรกิจด้านส่วนผสมเบเกอรี่ระดับโลกได้จัดการกับความท้าทายของต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และการขาดแคลนส่วนผสมเบเกอรี่ โดยการใช้โมเดล ML ที่ให้คำแนะนำด้านราคาและผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงสิ่งที่บรรดาลูกค้าร้านเบเกอรี่กำลังซื้อ  Zeelandia Group สามารถเตรียมคำแนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าได้เร็วขึ้นถึง 83% โดยลดเวลาจาก 30 นาทีเหลือเพียง 5 นาทีผ่านการใช้ AI  และการให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลาน้อยลงนี้ ส่งผลให้พนักงานของ Zeelandia Group สามารถมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ทำให้ยอดการขายของลูกค้าหนึ่งรายต่อหนึ่งธุรกรรมเพิ่มสูงขึ้นด้วย  

นอกจากนี้ บริษัทอาหารและเครื่องดื่มยังได้นำ AI และ ML มาปรับใช้ในด้านการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนด้วย โดยหันมาใช้ ML เพื่อช่วยลดของเสียและระบุความด้อยประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในห่วงโซ่อุปทาน เช่น Amalthea ผู้ผลิตชีสนมแพะและชีสนมวัวออร์แกนิกชั้นนำระดับโลกที่เปลี่ยนมาใช้ Applied AI ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์คุณภาพชีสได้แม่นยำมากขึ้น สามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุด สร้างความภักดีของลูกค้า และเพิ่มความยั่งยืนในการดำเนินงาน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเรื่องของปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั่วโลกที่ยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ผลผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มขาดตอน  การขาดแคลนนี้อาจเกิดได้จากการที่แรงงานรุ่นใหม่มองหาโอกาสการจ้างงานตลอดชีวิตและอาชีพที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า มากกว่าการทำงานในโรงงานหรืองานบริการลูกค้า 

ก่อนหน้านี้ Amalthea สามารถวิเคราะห์น้ำนมด้วยวีธีแบบแมนนวลได้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น ทำให้ยากต่อการปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ที่ควบคุมกระบวนการเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด  แต่ปัจจุบันนี้ Amalthea สามารถใช้ ML ดูผลผลิตได้ทันที อีกทั้งยังได้รับข้อมูลเชิงลึกโดยตรงเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย  สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นช่วยให้ Amalthea ลดของเสียจากการผลิตโดยรวมได้ เพราะบริษัทสามารถระบุจุดบกพร่องได้อย่างรวดเร็วพร้อมปรับปรุงกระบวนการไปพร้อม ๆ กันได้  การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรและผลกำไรของบริษัท เพราะ Amalthea คาดว่าจะประหยัดเงินได้ประมาณ 500,000 ยูโร สำหรับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1% 

Nutreco บริษัทผลิตอาหารสัตว์ชั้นนำใช้เทคโนโลยี Industry 4.0 ล่าสุดสำหรับการเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) ในการเพาะเลี้ยงกุ้ง และประสบความสำเร็จในการเพิ่มวงจรการผลิตกุ้งที่มีสุขภาพดีขึ้นโดยใช้อาหารกุ้งน้อยลงถึง 30% ยิ่งไปกว่านั้น Nutreco ยังใช้เซ็นเซอร์เสียงในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสำหรับฟังเสียงและตรวจจับเวลาที่กุ้งหิว ทำให้ AI สามารถระบุเวลาและปริมาณอาหารที่ต้องให้โดยรวมได้ ช่วยลดปริมาณของเสียจากอาหารกุ้ง โดยให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของกุ้งเป็นอันดับแรก

แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการรักษาอุปทานท่ามกลางความต้องการที่สูงขึ้นนี้ทำให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มต้องลงทุนในเทคโนโลยี Industry 4.0 และระบบอัตโนมัติสำหรับการผลิตเพื่อชดเชยการขาดพนักงาน ดังจะเห็นได้จากการที่ธุรกิจต่าง ๆ ได้ใช้ AI ร่วมกับหุ่นยนต์เพื่อทำให้กระบวนการที่ต้องใช้สายตาและการตัดสินใจของมนุษย์มากเป็นไปโดยอัตโนมัติ เช่น กระบวนการคัดแยกขนาด, การคัดคุณภาพ, การตัดชิ้นและการแล่  ยิ่งไปกว่านั้นการลงทุนและการใช้เทคโนโลยี Industry 4.0 ล่าสุดยังได้ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถที่ต้องการใช้นวัตกรรมล่าสุดเพื่อปรับปรุงปัญหาด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกให้ดีขึ้น เช่น การทำประมงอย่างยั่งยืน เป็นต้น

การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม  Applied AI จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจเพื่อให้ทำงานได้ชาญฉลาดขึ้น ไม่ใช่ยากขึ้น  เห็นได้ชัดว่าการนำโซลูชัน ML มาใช้งาน ทำให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงความยั่งยืนได้ และพนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ลูกค้ามากกว่างานที่ซ้ำซากจำเจ  บริษัทอาหารและเครื่องดื่มไม่มีทางเลือกในการปรับตัวเมื่อต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ  Applied AI จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการสร้างผลกำไรทางธุรกิจท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเสียดฟ้า

รายงานจากศูนย์วิจัยกรุงศรีระบุว่า แนวโน้มที่สำคัญของโลก (Megatrend) สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้หลากหลายด้าน อาทิ การผลิต เศรษฐกิจ วิถีชีวิต สังคม ตลอดจนพฤติกรรม ดังนั้นการเข้าใจถึงเมกะเทรนด์หลักที่คาดว่าส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหารจะช่วยให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอาหารของโลกในอนาคต โดยมี AI หรือปัญญาประดิษฐ์จัดอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีเมกะเทรนด์นี้ด้วย

How digital technologies help food & beverage companies combat inflation

Supply Chain’s Wild Ride Continues

How digital technologies help food & beverage companies combat inflation

By Terry Smagh, Senior Vice President and General Manager for Asia Pacific and Japan, Infor

Recent inflation spikes are causing food and beverage manufacturers worldwide to face potential threats to profitability and risks to customer relationships. To prevent negative pricing-related fall out, food and beverage companies should take a broad view of their costs, product portfolio, and margin strategies. This will help put today’s economic volatility in perspective, avoid panicked responses, and reinforce the continued need for making the business and supply chain more resilient and agile. Managed carefully, the current inflation challenges can become need-driven opportunities that embrace innovation and automation.

Four common inflation-related pain points and suggested coping mechanisms:

  1. Ingredient shortages and disruption

In addition to extreme weather conditions and seasonal variability, conflict, supply chain disruptions, and political pressure contribute to inflation and soaring prices for agricultural raw materials. The most recent example causing severe ingredient shortages is the Russian invasion of Ukraine that has created uncertainty for exporting grain, wheat, and vegetable oil, affecting food production globally.

Improve visibility—With real-time visibility across the food supply chain—from the farmers and suppliers upstream in the supply chain, via processing, to the distributors and retailers downstream in the supply chain—food and beverage manufacturers can receive notice of shipment delays, allowing the procurement team to form and execute alternative plans.

Review the product mix—Diversifying their raw material and supplier options is another way food and beverage producers can mitigate the risks of ingredient shortages. Alternatively, scaling back on some products if the price increase can’t be justified (or absorbed) may be an unavoidable option.

Improve supply chain planning—Modern supply chain planning solutions can help food and beverage companies achieve greater planning and forecasting accuracy. These solutions should have embedded machine learning (ML) to make the forecast more accurate and responsive to demand contributors such as the weather and price changes.

Think long term—Accurate forecasting and planning scenarios will help food and beverage manufacturers understand their long-term needs so they can confidently negotiate contracts with suppliers to guarantee availability. In some cases, prices can be locked in, protecting the food company from future price spikes.

  1. Spiking fuel prices, energy costs, and transportation costs

The shut-down of container ports during the pandemic is still being felt in the global food supply chain. The rise in energy cost and fuel prices are again adding significantly to the cost of food products. All regions are impacted, even those with pipelines, fuel reserves, and relaxed sustainability mandates.

Plan shipping strategies—Transportation costs are impacted by inflation, including container carriers, cargo planes and long-haul tractor trailers. Ensuring efficiency in shipping perishable products or raw ingredients may require choosing new suppliers that are closer to the manufacturer. Software that provides end-to-end visibility and cost analysis is critical to proactive procurement strategies.

Consider local sourcing—Consumers prefer local and organic products where possible. As a trade-off, they will face limited choices and reliance on locally sourced produce. Strategies for bringing production back from countries with low labor costs may require a fresh examination due to disruptions in shipping costs. When the savings achieved from low wages are eroded by high shipping costs, returning the production facilities to the home country is a logical step if there is an available workforce.

Outsource logistics—Turning to third-party logistics companies (3PLs) can play a role in last-mile fulfillment. Working with 3PLs, like any strategic collaborative partner, is best managed via highly flexible cloud solutions that support data sharing while protecting security and data governance.

  1. Customer experience and alignment

Inflation is severely impacting consumer spending worldwide. Some expect a recession is on the horizon—a prospect that’s further discouraging investment. Whether a food and beverage manufacturer should absorb price fluctuations or pass higher costs on to its customers is a classic dilemma. But shrinking packaging sizes and product value as a way of keeping prices stable can backfire as savvy consumers are becoming more aware of changes. Today, news like these spreads fast on social media.

Maintain quality—Manufacturers may be tempted to replace suppliers or ingredients to save costs, but that doesn’t come without the risk of non-conformance with the product declaration. Product lifecycle management solutions can simulate the impact of a new supplier or ingredient on the product specification, avoiding quality loss and non-compliance.

Manage the product lifecycle—While quality and compliance can’t be sacrificed, food and beverage manufacturers should offer more economical options in their product portfolio. This may include scaling back products or evaluating the use of ingredients that are becoming difficult to obtain. Product lifecycle management solutions can help manufacturers reduce the time needed to develop and manage new products, as well as achieve regulatory and labeling compliance.

Manage warehouse inventory—Being strategic about warehouse inventory will enable manufacturers to better manage cash flow and minimize the amount of capital tied up in inventory. As supply chain disruption has changed the way manufacturers think about just-in-time delivery, expanding stock levels must be carefully considered to avoid the risk of waste due to expired ingredients or obsolete packing materials. Inventory planning software can help manufacturers understand the nuances of different strategies to pick the right course of action.

Automate processes—If you can’t adjust a recipe and the customer base is opposed to price increases, improving productivity and efficiency through automation may be the best option to counter the impact of inflation. Automation can range from eliminating redundant data entry and streamlining workflows to adding image recognition with machine learning (ML) to automate labor-intensive tasks that previously required human eyes and decisions.

  1. Product innovation

Manufacturers can turn to innovation to help alleviate the pressures caused by inflation and the increased costs of ingredients. But to truly seize opportunities for product innovation, manufacturers must work to eliminate IT silos between departments. This helps ensure that everyone has access to the same data, business systems, and processes which enables companies to quickly introduce new products that will appeal to consumers.

Introduce new recipes—The ability to re-calculate recipes and product specifications when inflation is causing food companies to switch suppliers or change ingredients is crucial and something that is too complex and time-consuming to be left to spreadsheets. A modern product lifecycle management solution can manage the process efficiently, optimizing specifications, costs, and sustainability.

Stand up new options—Another way manufacturers might confront inflation is by standing up new branches, new sales initiatives, or new go-to-market models. Cloud solutions offer rapid deployment, making agile response possible. Two-tier systems, also supported by highly flexible ERP solutions, may provide a quick way to branch from an existing enterprise and its ERP system, yet take advantage of new, modern functionality.

Overcome volatility

Inflation has hit food and beverage manufacturers hard in all parts of the world. Economic experts predict that volatility and high costs may be challenges that won’t be resolved quickly. Manufacturers can counteract increased costs by examining their supply chain processes, services, and product portfolios. Modern cloud-based ERP solutions can help companies make data-based decisions and find innovative solutions to inflation-induced issues. Being proactive and strategic can differentiate manufacturers and set them apart from the competition.