Binance TH, Binance Charity and Changpeng Zhao pledge to support up to $1.5 Million in the Earthquake-Affected Areas in Myanmar and Thailand.

Binance TH, Binance Charity และฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao - CZ) มอบความช่วยเหลือเร่งด่วนรวมมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในไทยและเมียนมา

Binance TH, Binance Charity and Changpeng Zhao pledge to support up to $1.5 Million in the Earthquake-Affected Areas in Myanmar and Thailand.

In response to the recent devastating earthquake centered in Myanmar and surrounding areas including Thailand. Binance Charity, together with Binance co-founder and former CEO Changpeng Zhao (CZ), will launch a joint effort to airdrop up to $1.5 million equivalent in BNB to the users of Binance.com living in affected areas of Myanmar, as well as the users of Binance’s subsidiary in Thailand, Binance TH by Gulf Binance, in Thailand to support relief efforts in the region.

Binance Charity 

For Thailand, the areas considered affected can be found on Binance TH (www.binance.th) FAQ section and Binance Charity (https://www.binance.charity/) website. The identification of the users will be based on their living address information provided to Binance TH by Gulf Binance. We expect the funds to reach eligible users at the latest by April 14, 2025.

“In times of crisis, every second counts,” CZ said. “Blockchain and digital assets have provided an effective and efficient means of delivering financial aid to disaster victims. We encourage more people to join us to lend a helping hand to the needy and the less fortunate at this critical moment.”

Binance CEO Richard Teng said, “We are deeply saddened by the devastating earthquake that struck Myanmar, Thailand and the surrounding regions. Our prayers go out to the victims, their families and all those affected by the tragedy. Binance stands in solidarity with the communities and we sincerely hope that our efforts can provide some relief during this challenging time.”

“I extend my deepest condolences to the families who have lost loved ones, and my heartfelt sympathies to everyone affected by the recent earthquake,” said Nirun Fuwattananukul, CEO of Binance TH by Gulf Binance. “In partnership with Binance Charity, we are committed to finding innovative ways to provide support during this time of crisis, and to demonstrate our care for our users and the wider community. We also encourage recipients of these donations to pay it forward—if possible—so that aid reaches those who may be in even greater need.”

Additionally, Binance TH recognizes the vital role played by various agencies, especially the Police K9 Unit, which has been instrumental in searching for survivors during this crisis. Binance TH by Gulf Binance will donate an additional 200,000 THB to the K9 USAR Thailand under the Environmental and Social Foundation, to support the training of dogs for future missions and special operations.

Binance Charity remains committed to providing unwavering support to those in need through the power of blockchain technology. Previously, it has launched philanthropic initiatives in Spain, Turkey, Argentina, Libya, Vietnam and more.

For more information, please visit our FAQ page.

Binance TH, Binance Charity และฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao – CZ) มอบความช่วยเหลือเร่งด่วนรวมมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในไทยและเมียนมา

Binance TH, Binance Charity และฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao - CZ) มอบความช่วยเหลือเร่งด่วนรวมมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในไทยและเมียนมา

Binance TH, Binance Charity และฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao - CZ) มอบความช่วยเหลือเร่งด่วนรวมมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในไทยและเมียนมา

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงประเทศไทย Binance Charity ร่วมกับนายฉางเผิง จ้าว (Changpeng Zhao หรือ CZ) ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Binance ได้ประกาศโครงการช่วยเหลือ โดยจะทำการแจกจ่ายความช่วยเหลือผ่านการแอร์ดรอปเหรียญ BNB รวมมูลค่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผู้ใช้ Binance.com ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในเมียนมา และผู้ใช้ของ Binance TH by Gulf Binance ที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือในภูมิภาคนี้

สำหรับประเทศไทย รายชื่อพื้นที่ที่ถือว่าได้รับผลกระทบสามารถตรวจสอบได้จากหน้า FAQ ของ Binance TH (https://www.binance.th/th/faq) และเว็บไซต์ของ Binance Charity (https://www.binance.charity/) โดยการระบุผู้ใช้ที่ได้รับสิทธิ์จะอ้างอิงจากที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ Binance TH by Gulf Binance โดยคาดว่าผู้ใช้ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือภายในวันที่ 14 เมษายน 2568

“ในช่วงเวลาวิกฤต ทุกวินาทีล้วนมีความหมาย” CZ กล่าว “เทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการส่งต่อความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประสบภัย เราขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในช่วงเวลาสำคัญนี้” CZ กล่าวเสริม

นายริชาร์ด เทง ซีอีโอของ Binance กล่าวว่า “เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมา ประเทศไทย และพื้นที่โดยรอบ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต ครอบครัวของพวกเขา และทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ Binance ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความช่วยเหลือของเราจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ในบางส่วน”

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ซีอีโอของ Binance TH by Gulf Binance กล่าว  “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้ที่ต้องสูญเสียคนที่รักและขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ เราได้ร่วมมือกับ Binance Charity เพื่อแสวงหาวิธีการที่สร้างสรรค์ในการช่วยเหลือในยามวิกฤต และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่เรามีต่อผู้ใช้และชุมชนโดยรวม นอกจากนี้เราขอเชิญชวนผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือหากเป็นไปได้ให้ส่งต่อความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นที่อาจเดือดร้อนมากกว่า เพื่อให้ความช่วยเหลือไปถึงผู้ที่จำเป็นได้รับอย่างทั่วถึง”

นอกจากนี้ Binance TH เห็นความสำคัญของการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานต่าง ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำกับการสุนัขตำรวจที่เป็นอีกกำลังหลักเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่ง Binance TH by Gulf Binance จะบริจาคเงินเพิ่มเติมจำนวน 200,000 บาท ให้กับ องค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ ภายใต้มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อช่วยสนับสนุนการฝึกสุนัขสำหรับภารกิจและปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ  

Binance Charity ยังคงยึดมั่นในพันธกิจในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการ ด้วยพลังของเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมในประเทศต่าง ๆ เช่น สเปน ตุรกี อาร์เจนตินา ลิเบีย เวียดนาม และอีกมากมาย

P2P: โอกาสของอนาคตการเงิน หรือกับดักที่แฝงมากับตลาดคริปโต?

P2P: โอกาสของอนาคตการเงิน หรือกับดักที่แฝงมากับตลาดคริปโต?

P2P: โอกาสของอนาคตการเงิน หรือกับดักที่แฝงมากับตลาดคริปโต?

โดย ดร.กร พูนศิริวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และผู้อำนวยการโครงการ BINANCE TH Academy บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด

ในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังเฟื่องฟู การซื้อขายแบบ P2P (Peer-to-Peer) กลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อภาครัฐประกาศมาตรการควบคุมที่มีผลบังคับในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทว่าการควบคุม P2P ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย หลายประเทศในเอเชียเองก็มีแนวทางการจัดการที่แตกต่างกัน อย่างญี่ปุ่นเลือกที่จะห้าม P2P โดยสิ้นเชิง และเน้นการซื้อขายผ่าน Exchange ที่ได้รับอนุญาต ขณะที่สิงคโปร์อนุญาตแต่มีการควบคุมที่เข้มงวด ส่วนเกาหลีใต้ก็กำหนดว่าการเทรดประเภทนี้ต้องผ่านระบบธนาคารที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

ความเข้าใจกลไกและบทบาท P2P ในตลาดคริปโต

P2P เป็นการทำธุรกรรมการเงินโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ที่อาศัย “ความเชื่อใจกัน” มีความคล้ายคลึงกับ ‘การซื้อขายสินค้าโดยตรงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย’ โดยเริ่มจากการตกลงราคา และเลือกวิธีการชำระเงินโดยมีการจ่ายเป็นสกุลเงินบนใช้คริปโต ต่อมา P2P ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีความสะดวกและยืดหยุ่น ซึ่งการซื้อ-ขายประเภทนี้ ทำให้ผู้คนสามารถเลือกทำธุรกรรมกับใครก็ได้ และกำหนดราคาที่พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย และยังสามารถทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศสามารถเกิดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

นอกจากการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล P2P ยังสามารถทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มตัวกลาง ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความเสี่ยงต่างกัน อย่างไรก็ตามการแลกเปลี่ยน P2P กลับถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำผิดกฎหมาย ถูกใช้ในการหลอกลวง หรือหาประโยชน์ของผู้ไม่หวังดีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วง Bull Market เช่น การใช้สลิปปลอม การสวมรอยบัญชี และการใช้บัญชีม้าเพื่อฟอกเงิน นำไปสู่การอายัดบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งแท้จริงแล้วแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการต่างมีมาตรการป้องกันให้กับผู้ใช้ แต่บางรายเลือกที่จะทำธุรกรรมแบบ P2P นอกกระดานเทรด

รูปแบบการหลอกลวง P2P ที่ต้อง “พึงระวัง”

การหลอกลวงที่มิจฉาชีพพยายามโน้มน้าวเหยื่อให้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงนอกแพลตฟอร์ม Exchange ผ่านระบบ P2P นั้น อาจมีหลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกัน ดังนี้:

  • เริ่มต้นติดต่อเข้ามาในช่องทางออนไลน์: มิจฉาชีพจะติดต่อกับเหยื่อผ่านแพลตฟอร์มการส่งข้อความ (chat) หรือออนไลน์คอมมูนิตี้ ผ่านการโฆษณาชวนเชื่อบนโซเชียลมีเดีย โดยแอบอ้างเป็นผู้ค้าหรือบริษัทที่ถูกกฎหมายที่เสนออัตรา P2P ที่น่าดึงดูด พร้อมอ้างว่ามีประวัติการทำธุรกรรมที่ขาวสะอาด และจำนวนการทำธุรกรรมสูง
  • สร้างความไว้วางใจ: มิจฉาชีพจะทุ่มเวลาสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อ โดยมักจะแชร์เอกสารปลอม ประวัติการทำธุรกรรมปลอม นอกจากนี้มิจฉาชีพยังทำธุรกรรมสำเร็จหลาย ๆ ครั้งกับเหยื่อก่อนเพื่อล่อให้ตายใจ จนสุดท้ายเหยื่อสูญเงินก่อนโตในที่สุด
  • ชวนไปเทรดนอกกระดาน: หลังเหยื่อไว้วางใจแล้ว มิจฉาชีพจะเสนอให้ทำธุรกรรมนอกแพลตฟอร์ม และโน้มน้าวให้เหยื่อปล่อยเหรียญคริปโตโดยตรง
  • ขั้นหลอกลวง: มิจฉาชีพจะเสนอให้เหยื่อทำธุรกรรมด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่จูงใจ เมื่อเหยื่อตกหลุมพลางจนโอนสกุลเงินดิจิทัลไปยังกระเป๋าเงินของมิจฉาชีพ ก็จะไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป ส่งผลให้เหยื่อสูญเหรียญคริปโตและไม่มีทางกู้คืนได้

วิธีหลีกเลี่ยงการหลอกลวงผ่าน P2P

  • เลือกเทรดกับผู้ให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม และผู้ประกอบการที่ ก.ล.ต รับรองเท่านั้น : ดำเนินธุรกรรมผ่านผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจาก ก.ล.ต. (สามารถคลิกดูรายชื่อได้ที่ https://market.sec.or.th/LicenseCheck/views/DABusiness?dealer)
  • ระวังข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง: หากข้อเสนอ P2P ที่คุณได้รับดูดีเกินจริง ให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
  • หมั่นเรียนรู้ด้วยตัวเอง (DYOR): ขยันติดตามและศึกษาข้อมูลข่าวสารเพื่อให้รู้เท่าทันกับกลลวงที่มีการอัปเดตตลอด เพราะ  “ความรู้” เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ไม่หลงไปพัวพันกับมิจฉาชีพ และขบวนการฉ้อโกง

BINANCE TH ในฐานะผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจาก สำนักงาน ก.ล.ต. มองว่าการกำกับดูแล P2P เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และบริษัทฯ พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาด และเพิ่มการคุ้มครองให้กับนักลงทุนรายย่อย อันเป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบการเงินที่ยั่งยืน พร้อมย้ำแนวทางที่ BINANCE TH ปกป้องผู้ใช้บริการในไทย ดังนี้

  1. การยืนยันตัวตน
  • การยืนยันตัวตนแบบ Know-Your-Customer: BINANCE TH กำหนดให้ผู้ใช้ทุกคนต้องทำการยืนยันตัวตน (KYC) ก่อน จึงจะสามารถซื้อขายบนแพลตฟอร์มได้ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนั้นปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ระบบ Reputation: ระบบนี้จะเปิดให้ผู้ใช้มอบคะแนนและวิจารณ์คู่ค้าในการซื้อขายได้ ช่วยให้สามารถระบุผู้ซื้อขายที่น่าเชื่อถือ และหลีกเลี่ยงการหลอกลวงได้
  1. มอบความรู้และสร้างความเข้าใจ
  • มอบความรู้แก่ผู้ใช้งาน : BINANCE TH Academy เป็นแหล่งข้อมูลเพื่ออัปเดตความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับคนไทย รวมถึงประเด็นการหลอกลวงและวิธีหลีกเลี่ยง เพื่อเป็นแนวทางการซื้อขายที่ปลอดภัย
  • การแจ้งเตือนการหลอกลวง (Scam Alerts): มีการอัปเดตผู้ใช้งานเป็นประจำเพื่อให้รู้เท่าทันกับกลลวงประเภทใหม่ ๆ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกัน การแจ้งเตือนนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ตื่นตัวและรับทราบข้อมูลภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกคริปโต
  1. ช่องทางการสื่อสารที่ปลอดภัย
  • แชทในแอป (Chat Support): แพลตฟอร์ม BINANCE TH  มีฟีเจอร์แชทในแอปที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ กับผู้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง
  1. ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยตรวจจับ
  • การตรวจจับการฉ้อโกงด้วย AI: ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ขั้นสูง (LLM) เพื่อตรวจสอบการแชท P2P เพื่อหาสัญญาณพฤติกรรมฉ้อโกง และช่วยเหลือผู้ใช้
  • การประมวลผลภาพคอมพิวเตอร์เพื่อการตรวจสอบ POP (Computer Vision for POP Verification)ใช้โมเดลการประมวลผลภาพคอมพิวเตอร์ด้วย AI เพื่อประเมินเอกสารหลักฐานการชำระเงินโดยอัตโนมัติ และตรวจจับกรณีที่เอกสารถูกดัดแปลง ซึ่งเป็นสัญญาณทั่วไปของการพยายามหลอกลวง

การเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่ระบบนิเวศทางการเงินที่แข็งแรงในระยะยาว BINANCE TH พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับทุกคน

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาข้อมูลและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้